ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ออกหาเสียงทันที หลังได้เบอร์

กทม. 31 มี.ค. – สุดคึกคัก รอมา 9 ปี รับสมัครผู้ว่าฯ กทม. วันแรก “ชัชชาติ” ปั่นจักรยานมาถึงคนแรก ครึ่งวันเช้าสมัครแล้ว 18 คน ทุกคนพอใจหมายเลขที่ได้ เชื่อจะนำไปสู่ชัยชนะ ต่างยืนยันหากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อประชาชน หลังทุกคนได้เบอร์ออกหาเสียงทันที


บรรยากาศที่ศาลาว่าการ กทม.2 คึกคักตั้งแต่ก่อนสว่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นคนแรกที่เดินทางมาถึง ด้วยการปั่นจักรยาน พร้อมเน้นหาเสียงแบบรักษ์โลก โดยจะติดป้ายหาเสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด มั่นใจคนเลือกตนเองไม่ใช่เพราะป้ายหาเสียง แต่เพราะได้ติดตามนโยบายต่างๆ

จากนั้นผู้สมัครคนอื่นๆ ก็ทยอยมา บรรยากาศคึกคักขึ้นเรื่อยๆ เช่นนายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร มาโดยรถเมล์สีส้ม ซึ่งเป็นสีของพรรค พร้อมแสดงความมั่นใจเช่นกันว่าจะเป็นทางเลือกของคนกรุงเทพฯ


ขณะที่ น.ต.ศิธา ทิวารี นั่งรถบัสปรับอากาศ และมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคนำทีม พร้อมชูนโยบายแก้ปัญหาการจราจรและการระบายน้ำ

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มั่นใจในผลงานที่ทำมาตลอด 5 ปี ย้ำ ไม่เน้นชูนโยบาย เพราะที่ผ่านมาประกาศนโยบายมามากมาย แต่ไม่เคยมีใครทำได้จริง

เช่นเดียวกับนายสกลธี ภัททิยกุล ที่เน้นนโยบายทำให้กรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยี


ด้าน ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ก่อนเดินทางมาสมัคร ได้กราบขอพรจากพ่อแม่ ยืนยันหากได้รับการเลือกตั้ง สิ่งแรกที่จะทำ คือร่วมลุยแก้ปัญหาโควิด-19 รวมทั้งการระบายน้ำ เพื่อให้คนกรุงเทพฯ เจอปัญหาน้ำท่วม

ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการรับสมัคร กกต.ถือว่าผู้ที่มาก่อน 08.30 น. ถือว่ามาในเวลาเดียวกัน จึงให้ทุกคนใช้วิธีจับสลาก เพื่อจับหมายเลข ท่ามกลางการลุ้นของกองเชียร์ และเมื่อได้หมายเลขแล้ว ผู้สมัครแต่ละคน ต่างก็พอใจในหมายเลขที่ได้รับ

• นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร หมายเลข 1
• พันโทหญิงฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล หมายเลข 2
• นายสกลธี ภัททิยกุล หมายเลข 3
• นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หมายเลข 4
• นายวีรชัย เหล่าเรืองวัฒนะ หมายเลข 5
• พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง หมายเลข 6
• น.ส.รสนา โตสิตระกูล หมายเลข 7
• นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ หมายเลข 8
• น.ส.วัชรี วรรณศรี หมายเลข 9
• นายศุภชัย ตันติคมน์ หมายเลข 10
• น.ต.ศิธา ทิวารี หมายเลข 11
• นายประยูร ครองยศ หมายเลข 12
• นายพิศาล กิตติเยาวมาลย์หมายเลข 13
• นายธเนตร วงษา หมายเลข 14

ด้านนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ซึ่งมาร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครวันแรก พอใจภาพรวมที่มีผู้สนใจมาร่วมรับสมัครเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นยังไม่พบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

และครึ่งวันแรกก็มีผู้มาสมัครผู้ว่าฯ กทม. มากถึง 18 คน และหลังจากได้เบอร์แล้วต่างออกไปหาเสียงทันที สำหรับการสมัครจะมีไปจนถึงวันที่ 4 เม.ย.นี้ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง