เร่งล่า 2 โจ๋เถื่อนบุกทำร้าย-ทวงหนี้เพื่อนแค่ 120 บาท

ตรัง 24 มี.ค. – 2 โจ๋ บุกแทง-ทุบหัวเพื่อน ปางตาย ปมติดเงินแค่ 120 บาท ด้านยายผู้บาดเจ็บ เข้าห้าม ถูกทำร้ายไปด้วย เย็บ 4 เข็ม


ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ลงพื้นที่ไปยังบ้านพักหลังหนึ่ง บนถนนพัทลุง ซอย 7 ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง หลังได้รับแจ้ง ว่า เกิดเหตุวัยรุ่นชาย 2 ราย บุกเข้าไปใช้อาวุธมีดและท่อนเหล็กทำร้าย ยาย – หลาน คู่หนึ่ง ได้รับบาดเจ็บ จนต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ที่หน้าบ้านพัก พบรถจักรยานยนต์ล้มตะแคงอยู่กับพื้น และยังพบกระถางต้นไม้ แตกกระจายเกลื่อนเต็มหน้าบ้าน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา

ต่อมา วานนี้ (23 มี.ค.) ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้น เดินทางกลับมายังบ้านพัก ทราบชื่อคือ นายเริงฤทธิ์ จิตรชูชื่น หรือ แอร์ อายุ 27 ปี มีบาดแผลบริเวณเหนือริมฝีปาก ศีรษะแตก เย็บไปกว่า 20 เข็ม และตามลำตัวมีบาดแผลและรอยฟกช้ำหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังพบ ยายของนายเริงฤทธิ์ คือ นางไสว สำราญฤทธิ์ หรือ ยายเพ็ญ อายุ 81 ปี ถูกคมมีดบาดที่นิ้วหัวแม่มือซ้าย 1 แผล เย็บไป 4 เข็ม


ยายเพ็ญ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนอยู่กับหลานที่บ้าน จากนั้นมีรถกระบะสีขาวขับมาจอด ก่อนที่เพื่อนหลาน 2 คน จะเดินลงมา โดยหลานออกไปหาแบบไม่ได้คิดอะไร แต่ปรากฎว่า ทั้ง 2 คน ได้รุมทำร้ายหลาน โดยใช้มีดและท่อนเหล็ก ตนที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้าไปช่วย แต่กลับถูกโดนคมมีดบาดที่หัวแม่มือ โชคดีที่นิ้วไม่ขาด ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ยืนยันไม่ยอมความโดยเด็ดขาด ส่วนสาเหตุหลานบอกว่ามาจากเงินที่ไปยืมมา 120 บาท แต่คืนไปแล้ว

ด้าน นายเริงฤทธิ์ เล่าว่า รู้จักกับเพื่อนคนดังกล่าวมา 4-5 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ยืมเงินกันเป็นประจำครั้งละ 200-300 บาท และคืนให้ตลอด โดยยืมล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม จำนวน 120 บาท ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ได้โอนไปคืนแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าเข้าบัญชีหรือยัง เพราะโอนให้คนอื่นด้วยหลายคน โดนตนพยายามจะแชทอธิบายให้เพื่อนฟังแล้ว แต่เพื่อนกลับพูดไม่ดี ก่อนจะมีปากเสียงกัน และบอกว่าจะมาทวงถึงบ้าน ก่อนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้เชิญตัวผู้เสียหายสองยายหลานไปสอบปากคำอย่างละเอียด หลังเพิ่งออกจากโรงพยาบาลตรัง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (23 มี.ค) พร้อมทั้งได้จัดตำรวจสืบสวนติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง