กรุงเทพฯ 16 มี.ค.-นายกสมาคมการค้าปุ๋ยฯ เผยผู้ประกอบการพร้อมเข้าให้ข้อมูลต้นทุนการผลิตต่อ ก.พาณิชย์ หลังปลัดพาณิชย์หารือปลัดเกษตรฯ แล้วเห็นสมควรให้ปรับราคาจำหน่ายตามราคาแม่ปุ๋ยในตลาดโลก ชี้หากนำเข้าได้เร็ว จะทำให้สถานการณ์ขาดแคลนปุ๋ยเคมีที่จะเกิดขึ้นในฤดูกาลผลิตนี้ดีขึ้น
นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทยกล่าวว่า ผลการหารือระหว่างปลัดกระทรวงพาณิชย์และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ปรับเพดานราคาปุ๋ยเคมีได้ ช่วยคลี่คลายวิกฤติที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยผู้ประกอบการผลิตปุ๋ยพร้อมเข้าให้ข้อมูลต่อกรมการค้าภายในเกี่ยวกับต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะราคาแม่ปุ๋ยแต่ละชนิดที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ที่ผ่านมาราคาปรับขึ้น 50-190% ตามราคาก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปุ๋ย แล้วซ้ำเติมด้วยสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทำให้ราคาพุ่งสูง ทั้งยังนำเข้าไม่ได้จนเกิดภาวะวัตถุดิบขาด
ทั้งนี้หากกรมการค้าภายในกำหนดเพดานราคาที่ปรับใหม่แล้ว ผู้ประกอบการจะเร่งเจรจาหาซื้อแม่ปุ๋ยจากแหล่งผลิตอื่น ทดแทนส่วนที่เคยนำเข้าจากรัสเซียและเบลารุสซึ่งขนส่งผ่านท่าเรือยูเครน โดยหากนำเข้ามาได้เร็วเท่าไร จะทำให้สถานการณ์ขาดแคลนปุ๋ยดีขึ้นเนื่องจากจะถึงฤดูกาลผลิตใหม่ในอีกไม่ถึง 2 เดือนแล้ว โดยการนำเข้าปุ๋ยจะขนส่งทางเรือซึ่งใช้ระยะเวลาเช่น จากจีน 1 เดือนครึ่ง ตะวันออกลาง 1 เดือนครึ่ง ยุโรป 1 เดือนครึ่งถึง 2 เดือน หลังจากขนส่งถึงไทยแล้ว มีขั้นตอนขึ้นทะเบียนต่อกรมวิชาการเกษตร โดยหากสั่งปุ๋ย NPK สูตร 15-15-15 จากแหล่งใหม่แทนที่เคยนำเข้าจากรัสเซีย ใช้เวลา 3-4 เดือนในการขอเลขทะเบียน แล้วจึงจำหน่ายได้ หากเป็นแม่ปุ๋ยหรือปุ๋ยมาตรฐานใช้เวลา10 วันจึงจำหน่ายได้
นายเปล่งศักดิ์กล่าวต่อว่า การปรับราคาปุ๋ยจะไม่เป็นการเอาเปรียบเกษตรกรเนื่องจากปุ๋ยเป็นสินค้าควบคุมซึ่งกรมการค้าภายในควบคุมราคาจำหน่ายและกรมวิชาการเกษตรรับผิดชอบการขึ้นทะเบียนและตรวจสอบคุณภาพ หากผู้ประกอบการไม่ทำตามที่กำหนด มีโทษทางกฎหมายสูงมาก อีกทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะทำโครงการอุดหนุนเกษตรกรเพื่อให้เข้าถึงปุ๋ยเคมีในราคาถูกจึงไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร.-สำนักข่าวไทย