ประชุมวอร์รูมพบ “ปุ๋ย-อาหารสัตว์” ต้นทุนสูงขึ้น แต่ยังไม่ปรับขึ้นราคา

นนทบุรี 10 มี.ค.-ผลประชุมวอร์รูมตามผลกระทบ “รัสเซีย-ยูเครน” พบสินค้า “ปุ๋ยเคมี-อาหารสัตว์” ต้นทุนสูงขึ้นจาก 2 ประเทศเป็นแหล่งผลิตและผู้ส่งออกรายใหญ่ ส่งผลกระทบต้นทุนเอกชนไทย ชี้หากจะให้ปรับราคา ต้องดูให้รอบครอบเน้นผู้ผลิตอยู่ได้ ผู้บริโภคไม่เดือดร้อน


นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมวอร์รูมติดตามผลกระทบจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ว่าได้พิจารณาผลกระทบที่มีต่อสินค้าสำคัญ 2 รายการ คือ ปุ๋ยเคมี และวัตถุดิบอาหารสัตว์ ซึ่งปุ๋ยยูเรีย เป็นผลพลอยได้จากก๊าซธรรมชาติ ที่ไทยต้องนำเข้า ไม่สามารถผลิตเองได้ โดยรัสเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ของโลก ส่วนข้าวสาลี ยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ เมื่อ 2 ประเทศทำสงครามกันทำให้แหล่งผลิตเกิดปัญหาได้จนทำให้ราคาสินค้าโดยรวมปรับตัวขึ้นมามากกระทบต่อประเทศที่นำเข้าวัตถุดิบเหล่านี้สูงขึ้นตาม

“แม้ต้นทุนวัตถุดิบทั้ง 2 รายการดังกล่าวจะสูงขึ้นด้วยเหตุผลทั้ง 2 ประเทศทำสงครามโดยกระทรวงพาณิชย์ ต้องดูแลตลอดห่วงโซ่การผลิตให้เกิดความเป็นธรรม ตั้งแต่ต้นทาง คือ ผู้ผลิต ไปจนถึงปลายทาง คือ ผู้บริโภค หากต้นทุนการผลิตปรับขึ้นด้วยเหตุผลเช่นนี้ จะต้องดูแลให้ผู้ประกอบการอยู่ได้ ไม่เกิดภาวะสินค้าขาดแคลนและผู้บริโภคต้องไม่เดือดร้อนจากราคาที่แพงเกินไป หากจะมีการเปลี่ยนแปลงราคา”นายบุณยฤทธิ์กล่าว


อย่างไรก็ตาม หากจะให้มีการปรับราคาสินค้าขึ้นกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง โดยจะไม่ให้ปรับแบบค้ากำไรเกินควร ซึ่งจะต้องนำเสนอให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ได้ พิจารณาในรายละเอียดต่างๆก่อนเพราะสินค้าปุ๋ยเคมี และอาหารสัตว์ เป็นสินค้าควบคุมตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หากผู้ประกอบการจะปรับราคา ต้องทำเรื่องมาที่กรมการค้าภายในก่อน หากยังไม่อนุญาตสินค้ายังปรับขึ้นไม่ได้ เพราะการพิจารณาของกรมการค้าภายในจะพิจารณาถึงต้นทุนทางบัญชีเป็นสำคัญ หากพบเสนอข้อมูลเป็นเท็จเข้ามาถือว่ากระทำผิดกฎหมาย

นายบุณยฤทธิ์ กล่าวถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปว่า กระทรวงพาณิชย์ยังขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ตรึงราคาขายสินค้าทั้ง 18 หมวดไปก่อน เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำอัดลม เครื่องใช้ไฟฟ้า เนื้อสัตว์ ปุ๋ยเคมี ยาจำกัด และปราบศัตรูพืช และอื่นๆ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง