วอชิงตัน 9 มี.ค. – สหรัฐกับอังกฤษประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียแล้ว ขณะที่สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศจะค่อย ๆ ยุติการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการยกระดับการใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ของชาติตะวันตกเพื่อตอบโต้รัสเซียที่นำกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะหยุดนำเข้าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานของรัสเซีย ซึ่งหมายความว่าท่าเรือของสหรัฐจะไม่ต้อนรับเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียอีกต่อไป เขายอมรับว่าการใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศ แต่การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ได้หารืออย่างใกล้ชิดกับชาติพันธมิตร ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ก็ได้ประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ โดยยอมรับว่ามาตรการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรัสเซียในทันที แต่จะสร้างแรงกดดันและผลกระทบรุนแรงทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียอย่างแน่นอน ทั้งนี้ สหรัฐนำเข้าน้ำมันและน้ำมันกลั่นราวร้อยละ 8 จากรัสเซีย ส่วนอังกฤษนำเข้าน้ำมันร้อยละ 6 จากรัสเซีย
อย่างไรก็ดี อียูยังไม่ได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานของรัสเซียในทันที เนื่องจากต้องพึ่งพาการนำเข้าด้านพลังงานส่วนใหญ่จากรัสเซีย แต่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรฝ่ายบริหารของอียู ระบุว่า อียูจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปนำเข้าพลังงานจากประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหม่และขยายการใช้พลังงานสะอาดให้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อทดแทนปริมาณน้ำมันที่ขาดหายไป เพื่อตั้งเป้าให้อียูไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานฟอสซิลจากรัสเซียภายในปี 2573.-สำนักข่าวไทย