กรุงเทพฯ 24 ก.พ. – RATCH ตั้งเป้าที่จะเพิ่มกำลังการผลิตใหม่เข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 700 เมกะวัตต์ปีนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จาก 6 โครงการใหม่
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มกำลังการผลิตใหม่เข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 700 เมกะวัตต์ต่อปี แบ่งเป็นโครงการประเภทเชื้อเพลิงฟอสซิลไม่น้อยกว่า 450 เมกะวัตต์ และโครงการประเภทพลังงานทดแทนไม่น้อยกว่า 250 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการ(M&A) ประมาณ 5 โครงการ คาดจะสามารถปิดดีลได้บางส่วนภายในปีนี้ คาดทำให้กำลังการผลิตปีนีเ เพิ่มเป็น 9,800 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรวม 9,115.04 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตภายในประเทศไทย 59% และในต่างประเทศ 41%
ในปีนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จาก 6 โครงการ กำลังผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น 1,376.89 เมกะวัตต์ ที่จะทยอยเข้าระบบ( COD)ในปีนี้ คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย(EBITDA) ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอีก 2,500-3,000 ล้านบาท ประกอบด้วย กลุ่มโรงไฟฟ้าสหโคเจน กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 124.95 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ในอินโดนีเซีย 145.15 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าเน็กส์ซีฟ ราช ระยอง 45.08 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน ในอินโดนีเซีย 930.78 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานลมอีโค่วิน ในเวียดนาม 15.15 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น ส่วนขยาย 31.19 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน 1 อีก 86.20 เมกะวัตต์
ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง จะเริ่มเปิดให้บริการบางส่วนในเดือนสิงหาคมนี้ และโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ในสปป. ลาว จะเริ่มดำเนินการผลิตในไตรมาส 4/2565 และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัท Kyuden Mirai Energy Co., Ltd ปีละ 1 แสนตัน ภายใต้สัญญาซื้อขายระยะเวลา 15 ปี
สำหรับความคืบหน้าแผนเพิ่มทุน ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น และวิเคราะห์ตลาดการเงินซึ่งยังมีระยะเวลา เนื่องจากดีล M&A ยังอยู่ระหว่างการเจรจา จึงต้องดูเวลาให้สอดคล้องกัน
ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มการลงทุนกำลังการผลิตจากพลังงานทดแทนปีละ 250 เมกะวัตต์ และจะต้องเพิ่มขึ้นให้ถึง 2,500 เมกะวัตต์ในปี 2568 และ 4,000 เมกะวัตต์ในปี 2578 .- สำนักข่าวไทย