กรุงเทพฯ 21 ต.ค.- EGCO Group ติดตั้งกังหันลม Yunlin สำเร็จครบ 80 ต้น เตรียมปิดจ็อบจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบทั้งหมด 640 เมกะวัตต์ สิ้นปีนี้ ด้าน ราช กรุ๊ป เดินพลังงานแสงอาทิตย์ Bacolod ฟิลิปปินส์ กำลังผลิต 145 เมกะวัตต์ เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี 2568
ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า การก่อสร้าง Yunlin ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของมณฑลหยุนหลิน ในไต้หวัน มีความก้าวหน้าตามแผนงาน ล่าสุดได้ติดตั้งกังหันลมซึ่งทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าครบทั้งหมด 80 ต้น เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้วาง สายเคเบิลเพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 78 เส้น จาก 81 เส้น ความก้าวหน้าของ Yunlin เป็นผลมาจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการบริหารโครงการและการวางแผนการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการสนับสนุนของรัฐบาลไต้หวันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน EGCO Group มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า Yunlin จะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบทั้งหมดสิ้น 2567 เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์คาดว่าจะสร้างกระแสเงินสดให้ EGCO Group เฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินโครงการ
EGCO Group ถือหุ้น 26.56% ในโครงการ Yunlin กำลังผลิตสุทธิรวม 640 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี กับ Taipower (Taiwan Power Company) ปัจจุบันกังหันลมที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วได้จ่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าไต้หวันแล้วมากกว่า 1,600 กิกะวัตต์ชั่วโมง เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์จะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับครัวเรือนไต้หวันได้มากกว่า 600,000 หลังคาเรือน
นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Bacolod ฟิลิปปินส์ กำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุด 145 เมกะวัตต์ (MWp) ตั้งอยู่ในจังหวัด Negros Occidental ประเทศฟิลิปปินส์ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2567 หลังการจัดหาเงินกู้จากสถาบันการเงินของฟิลิปปินส์ 2 แห่ง ได้แก่ Security Bank Corporation และ Philippine National Bank สำเร็จ และคาดว่าจะแล้วเสร็จเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4 ปี 2568 โครงการแห่งนี้มีต้นทุนโครงการกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะติดตั้งโซลาร์เซลล์โฟโตโวลเทอิก (Photovoltaic: PV) โดยต่อไปในระยะที่ 2 โครงการมีแผนจะติดตั้งร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ เพื่อให้การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะจำหน่ายให้กับบริษัทในเครือของกลุ่ม Aboitiz Power Corporation ภายใต้สัญญาจัดหาพลังงานไฟฟ้า ระยะเวลา 10 ปี ส่วนที่เหลือจะจำหน่ายในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า (Wholesale Electricity Spot Market) โดยมีบริษัท เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี อินเวสเมนต์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 49 เป็นผู้บริหารและดำเนินงานโครงการ
นอกเหนือจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Bacolod แล้ว บริษัท เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี อินเวสเมนต์ จำกัด ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 2 แห่ง ได้แก่ โครงการพลังงานลมใกล้ชายฝั่ง ซาน มิเกล เบย์ ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง ประมาณ 500 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง ลูเซนา ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง ประมาณ 475 เมกะวัตต์.-511-สำนักข่าวไทย