กรุงเทพฯ 16 ก.พ. – RATCH เตรียมพร้อมแข่ง รฟ.ชุมชน ส่วนปี 64 พร้อมหากำลังผลิตใหม่ 700 เมกะวัตต์
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยบริษัท เตรียมแผนร่วม ประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ ประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล 2 โครงการ กำลังการผลิต 3- 6 เมกะวัตต์ต่อแห่ง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ และสนใจเข้าร่วมประมูลหาผู้รับเหมาติดตั้ง(EPC) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ในเขื่อน ต่างๆของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)
สำหรับปี ปี 2564 บริษัทตั้งเป้าหมายขยายการลงทุนหากำลังผลิตใหม่เข้าระบบ 700 เมกะวัตต์ โดยจัดสรรงบประมาณภาพรวมลงทุนไว้ 15,000 ล้านบาท ในส่วนนี้เป็นการลงทุน โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล 455 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 245 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ จะลงทุนในโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ประมาณ350 เมกะวัตต์ คาดหวังว่าในปีนี้ จะสามารถปิดดีลได้อย่างน้อย 5 โครงการ อีกทั้งขยายโอกาสการลงทุนในตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่ธุรกิจพลังงานทดแทนเติบโตโดยปัจจุบัน บริษัท มีโครงการในมือทั้งสิ้น 8,174 เมกะวัตต์ โดยบริษัทยังคงเป้าหมายกำลังผลิตพลังงานทดแทนเป็น 2,500 เมกะวัตต์ในปี 2568 และขยับเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือแตะ 10,000 เมกะวัตต์จากปี 2566 เป็นปี 2568
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 คาดว่า จะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2563 โดยมีรายได้ส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมทุน ในปี 2563 เพิ่มขึ้น 15.9% เป็นเงินจำนวน 4,600 ล้านบาท บริษัท จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปีนี้อีก 4 โครงการ รวมกำลังผลิตตามการถือหุ้น 537.04 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดิน กำลังผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น 149.94 เมกะวัตต์ (ถือหุ้น 70%) โรงไฟฟ้าพลังงานลมคอลเล็กเตอร์ 226.8 เมกะวัตต์ (ถือหุ้น 100%) โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว อินโดนีเซีย 145.15 เมกะวัตต์ (ถือหุ้น 49%) และโรงไฟฟ้าพลังงานลม Thanh Phong เวียดนาม 15.15 เมกะวัตต์ (ถือหุ้น 51%) ส่วนโรงไฟฟ้าที่เดินเชิงพาณิชย์แล้ว กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,700 เมกะวัตต์ จะมุ่งเน้นบริหารประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า การใช้เชื้อเพลิง ต้นทุนการผลิต และควบคุมการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุด
ส่วนกรณีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ทำหนังสือขอชะลอการจ่ายค่าไฟฟ้า คาดว่า มีผลกระทบต่อบริษัทเล็กน้อย ล่าสุด สปป.ลาว แจ้งว่า ไม่สามารถจัดหาเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐได้ ขอเปลี่ยนมาจ่ายในรูปแบบของเงินกีบแทน ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ และจะเริ่มจ่ายประมาณ 3-4 เดือนข้างหน้า ดังนั้น บริษัทก็จะบริหารจัดการโดยการนำเงินกีบดังกล่าว ไปใช้เป็นค่าบริหารจัดการโครงการในลาว เช่น โครงการในหงสา ที่มีคอนแทรคเตอร์จำนวนมากก็จะขอนำเงินในส่วนนี้มาใช้เป็นค่าใช้จ่ายแทน ซึ่งก็เจรจากับเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในวิสัยที่บริษัทยอมรับได้
สำหรับผลดำเนินงานปี 2563 RATCH มีกำไรสุทธิ 6,286.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 จากปี 2562 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 4.34 บาท และเตรียมขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผล 2.40 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 3,480 ล้านบาท กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 เมษายน 2564 โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 (งวดเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563) จำนวน 1,667.50 ล้านบาท 1.15 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563-สำนักข่าวไทย