ตลาดหุ้น-เงินบาทจับตาถ้อยแถลงเฟด

กรุงเทพฯ  8  ม.ค. – เงินบาทสัปดาห์แรกปี 60 ยังคงแข็งค่า ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นท่ามกลางแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ  สัปดาห์หน้าจับตาถ้อยแถลงเฟด-นโยบายว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ


ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทสัปดาห์แรกของปี  2560 ว่า แข็งค่าต่อเนื่อง ทดสอบระดับ 35.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ เคลื่อนไหวทิศทางอ่อนค่าตามการปรับโพสิชั่นของนักลงทุนก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ รวมถึงแรงขายเมื่อเทียบกับเงินหยวน หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศอัตราอ้างอิงค่าเงินหยวนประจำวันในระดับที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นทิศทางสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสกุลเงินหยวนในตลาดออฟชอร์ โดยวันศุกร์ที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา เงินบาทอยู่ที่ 35.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเมื่อเทียบกับระดับ 35.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  ในวันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2559

สำหรับสัปดาห์หน้า (9-13 ม.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.60-35.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดและการแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนธันวาคม สตอกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพฤศจิกายน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนมกราคม  นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามสถานการณ์ค่าเงินหยวนและตัวเลขเศรษฐกิจเดือนธันวาคมของจีนด้วยเช่นกัน


ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (4-6 ม.ค.) ว่า ปรับเพิ่มขึ้นมีแรงหนุนจากการซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,571.48 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.85 จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ  107.32 จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 65,220.57 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 632.90 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ  2.70  จากสัปดาห์ก่อน  ตลาดหุ้นไทยเปิดทะยานขึ้นในวันพุธก่อนที่จะขยับขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ท่ามกลางการปรับขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง สวนทางกับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังบันทึกการประชุมเฟดยังคงส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

ส่วนสัปดาห์หน้า (9-13 ม.ค.) มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,550  และ 1,535 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,580 และ 1,590 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (เบื้องต้น)  ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในยูโรโซน และข้อมูลการค้าของจีน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง