กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – กสิกรไทยจัดงาน “EARTH JUMP 2024 : The Edge of Action” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ชี้เป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจไทยที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อภาวะโลกเดือด ซึ่งจะส่งผลต่อความอยู่รอดของธุรกิจ โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ พร้อมด้วยผู้นำองค์กรชั้นนำระดับโลกและไทยกว่า 40 คน ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อยกระดับธุรกิจและสังคมไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ฉายภาพเป้าหมายและทิศทางของประเทศในเรื่องของการแก้ปัญหาโลกร้อน ว่าจากการเดินทางไปพบนักลงทุนหลายประเทศจะเห็นว่า สิ่งที่นักลงทุนต่างชาติสนใจ คือ สิทธิประโยชน์จากการลงทุน ความเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และพลังงานสะอาด ประเทศที่เจริญแล้วมีการใช้พลังงานสะอาดมากกว่าประเทศกำลังพัฒนา ประเทศไทยก็ต้องการพลังงานสะอาดจึงต้องเริ่มคิดและลงมือทำ ซึ่งการจะลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไทยได้ ต้องให้ความรู้ทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจ และในส่วนของภาคการเงินก็มีความสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนจึงต้องได้รับการสนับสนุนทั้งเงินกู้และตลาดทุน ซึ่งธนาคารกสิกรไทยได้ทำเรื่องนี้มานานและมีการสนับสนุนเงินกู้ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลก็จะมีการออก Sustainability-Linked Bond เพื่อผลักดันให้องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดำเนินนโยบายที่สร้างความยั่งยืน ปัจจุบันบริษัทใหญ่ๆ เข้าใจเรื่องนี้ดี แต่ความน่าเป็นห่วงอยู่ที่ Supply Chain ถ้าไม่สามารถดึงเข้ามาอยู่ในปรัชญาเดียวกันได้ การส่งออกก็จะยาก ส่งสินค้าไปขายต่างประเทศก็จะถูกปฏิเสธ ดังนั้นสินเชื่อสีเขียวจึงสำคัญที่จะต้องมีเงินทุนในการให้ธุรกิจปรับเปลี่ยน เพราะเราจะทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า อัตราการเติบโตของ GDP ในหลายๆ ประเทศ สวนทางกับอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ คือ ยิ่งมีการเติบโตของจีดีพีสูงขึ้นเท่าไร่ อัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ยิ่งน้อยลงเท่านั้น เนื่องมาจากการตระหนักถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้มีการปรับตัว และปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ประกอบกับศักยภาพด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อวางรากฐานด้านโครงสร้างต่างๆ ให้สามารถต่อยอดและสร้างโอกาสได้อย่างหลากหลาย ขณะที่ประเทศไทย มีแนวโน้มส่งสัญญานบวกเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่เห็นการฟื้นตัวของ GDP กลับมา สวนทางกับการปล่อยคาร์บอนที่ลดน้อยลง นับเป็นข่าวดีที่แสดงเห็นว่าทุกภาคส่วนเริ่มให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมอยางเห็นได้ชัด ซึ่งการที่เราจะนำพาประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้ ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดกติการ่วมกัน ในปีนี้ภาพนี้ก็มีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ธนาคารรู้ดีว่าการสนับสนุนให้ธุรกิจตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่สำคัญ ธนาคารจึงจัดงานนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รู้ทิศทางเป้าหมายของประเทศ กติกาด้านภาษีทั้งภายในและต่างประเทศ ตลอดจนกติกาด้านการเงินและการลงทุน รวมถึงการแชร์ประสบการณ์การปรับตัวจากธุรกิจต่างๆ ที่ได้ลงมือทำและเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ อย่างไรก็ดี ธนาคารกสิกรไทยสนับสนุนสินเชื่อและเงินลงทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financing and Investment) มียอดสะสม (ปี 2565-2566) รวม 73,397 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 และคาดว่าจะมียอดสะสมรวมเป็น 1 แสนล้านบาท ภายในปี 2567 นี้
สำหรับงาน EARTH JUMP 2024 : The Edge of Action เป็นการจัดงานแบบ Carbon Neutral Event มีการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมในงานทั้งหมดเพื่อชดเชยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา และได้รับการสนับสนุนการออกแบบ ผลิตโครงสร้างนิทรรศการและวัสดุตกแต่งการจัดงานทั้งหมดจากบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ซึ่งสามารถนำกลับไปใช้ได้อีกเพื่อให้การจัดงานในครั้งนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด. -517-สำนักข่าวไทย