กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – อธิบดีกรมปศุสัตว์เผยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ร่วมกับตำรวจ ปคบ. ตรวจห้องเย็น 2 แห่ง ใน จ.นครปฐม พบซากสุกร 66,984.34 กิโลกรัม เจ้าของไม่สามารถแสดงเอกสารขอเคลื่อนย้ายได้ รวมทั้งไม่แจ้งการจัดเก็บต่อกระทรวงพาณิชย์
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท ด่านกักกันสัตว์สระบุรี พระนครศรีอยุธยาสุพรรณบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เข้าตรวจสอบห้องเย็น โดยวันนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบห้องเย็น 2 แห่งในจังหวัดนครปฐม พบซากสุกรรวม 66,984.34 กิโลกรัม ซึ่งไม่ทราบแหล่งที่มา
สำหรับรายละเอียดการเข้าตรวจสอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบแห่งแรกที่บริษัท C (นามสมมติ) เป็นโรงงานตัดแต่งเนื้อสัตว์และมีห้องเย็นของตนเอง จัดเก็บซากสุกร 288,828.6 กิโลกรัม จึงขอตรวจสอบเอกสารเคลื่อนย้าย แต่พบว่ามีซากสุกร 56,898 กิโลกรัมนำไปฝากจัดเก็บห้องเย็นภายนอกแห่งหนึ่ง โดยไม่มีเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์ รวมทั้งบริษัทยังไม่ได้แจ้งจำนวนการจัดเก็บต่อกรมการค้าภายใน พนักงานเจ้าหน้าที่จึงอายัดซากสุกร 56,898 กิโลกรัม ไว้ที่ห้องเย็นดังกล่าว
จากนั้นขยายผลเข้าตรวจสอบบริษัท D (นามสมมติ) มีลักษณะเป็นโรงงานตัดแต่งเนื้อสัตว์และมีห้องเย็นรับฝากเนื้อ พบซากสุกร 56,388.66 กิโลกรัม โดยยังไม่ได้แจ้งจัดเก็บต่อกรมการค้าภายใน นอกจากนี้เมื่อขอตรวจสอบเอกสารการเคลื่อนย้าย พบว่าซากสุกร 10,088 กิโลกรัม ไม่มีเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์ จึงอายัดไว้ 10,088 กิโลกรัม
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวต่อว่า หากเจ้าของบริษัทเนื้อสุกรที่อายัดไว้ ไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ 2558 มาตรา 22 โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับผลการตรวจสอบห้องเย็นตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อป้องกันกรณีที่อาจมีการกักตุนสินค้าประเภทเนื้อสุกรเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าในวันนี้ (22 ม.ค.) เข้าดำเนินการแล้ว 203 แห่ง พบซากสุกร 9,187,663.09 กิโลกรัม ส่วนผลการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 20-22 ม.ค. เข้าดำเนินการแล้ว 467 แห่ง พบซากสุกร 12,868,479.70 กิโลกรัม.-สำนักข่าวไทย