นายกฯ ห่วงช่วงตรุษจีน แนะเลี่ยงเดินทางไม่จำเป็น

กทม. 22 ม.ค.-นายกฯ ห่วงโอไมครอนระบาดช่วงตรุษจีน แนะประชาชนเลี่ยงเดินทางโดยไม่จำเป็น ลดแออัด ปลอดภัยจากโควิด-19 สธ.ยังคงระดับเตือนภัย ระดับ 4

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงการระบาดของโอมิครอนในช่วงตรุษจีน แนะประชาชนเลี่ยงเดินทางโดยไม่จำเป็น ลดแออัด ย้ำปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 1 ก.พ.65 ถือเป็นวันต้อนรับปีใหม่ของคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีน คาดว่า ภาพรวมเทศกาลตรุษจีนปีนี้ยังมีความคึกคัก เพราะเป็นเทศกาลเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ของพี่น้องคนไทยเชื้อสายจีน อย่างไรก็ตาม การฉลองเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ต้องปรับรูปแบบกิจกรรมต่าง ๆ จากเดิมที่มีการรวมตัวของคนในครอบครัว ให้เน้นปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อภายในครอบครัวและชุมชน รวมทั้งให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการฉลองตรุษจีนทางออนไลน์มากขึ้น เพราะแม้ ศบค. จะผ่อนคลายมาตรการให้ดำเนินกิจกรรมกิจการได้ แต่กระทรวงสาธารณสุขยังคงระดับการเตือนภัย ระดับ 4 เหมือนเดิม


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังแนะประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
1) วันจ่าย : ควรวางแผนการซื้อและใช้เวลาให้สั้นที่สุด เลือกซื้อสิ้นค้าสดใหม่จากแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ เช่น ตลาดที่มีการประเมิน Thai Stop COVID 2 Plus หรือจากร้านค้าที่มีระบบออนไลน์ หากจับจ่ายในตลาดให้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง เลี่ยงจุดแออัด
2) วันไหว้ : ล้างวัตถุดิบให้สะอาด ปรุงอาหารสุกทุกเมนู หากทิ้งอาหารไว้นานหลายชั่วโมงให้อุ่นอาหารอีกครั้งก่อนนำมาบริโภค ลดการเผากระดาษ ใช้ธูปสั้นหรือธูปไฟฟ้า เลี่ยงการปักธูปลงในอาหารโดยตรง จัดสถานที่ให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก พร้อมทั้งสวมหน้ากากตลอดเวลาขณะที่ทำกิจกรรม
3) วันเที่ยว : ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ รักษาระยะห่าง เลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เลือกใช้บริการจากสถานประกอบการ แหล่งท่องเที่ยวที่มีสัญลักษณ์ Thai Stop COVID 2 Plus หรือ SHA+ และเมื่อกลับถึงบ้านให้ทำความสะอาดร่างกายทันที

สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ (22 มกราคม 2565) รวม ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 8,112 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 7,935 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 177 ราย หายป่วยกลับบ้าน 7,582 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 83,231 ราย เสียชีวิต 19 ราย ล่าสุดการให้บริการวัคซีนโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 112,959,434 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 52,018,470 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 48,115,000 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 12,043,108 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 782,856 โดส.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง