กรุงเทพฯ 11 ม.ค.- รองอธิบดีกรมเจ้าท่าแจงค่าเรือคลองแสนแสบ ขึ้นราคา ระยะละ 1 บาท เป็น 9 -19 บาท สอดคล้องกรอบอัตราค่าโดยสารที่กำหนด พร้อมยืนยัน เรือด่วน –เรือข้ามฟาก ยังไม่ขึ้นราคา
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านความปลอดภัย เปิดเผย กรณีเรือคลองแสนแสบ เตรียมปรับขึ้นราคาอีก 1 บาท และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมนี้ว่า บริษัทครอบครัวขนส่ง จำกัด ผู้ให้บริการเรือคลองแสนแสบ ได้มีการขออนุญาตกรมเจ้าท่า เพื่อปรับขึ้นราคาจากเดิม เริ่มต้นที่ 8-18 บาท เป็นเริ่มต้นที่ 9 -19 บาท ตามประกาศของกรมเจ้าท่าที่ 68/ 2563 เรื่องกำหนดอัตราค่าโดยสารเรือกลประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นการเฉพาะและชั่วคราวตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังจากก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ให้ความร่วมมือไม่ปรับขึ้นค่าโดยสาร เพื่อช่วยลดภาระของผู้โดยสาร
แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นเกินกว่าลิตรละ 25 บาท และตามเกณฑ์กรอบอัตราค่าโดยสารที่กรมเจ้าท่าได้กำหนดไว้ สามารถจัดเก็บ ได้ที่ 9 บาท เป็นราคาที่สอดคล้องตรงกับประกาศกรมเจ้าท่าที่ 68/2563 ทั้งนี้ การเก็บค่าบริการเริ่มต้นเพิ่มอีก 1 บาทจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถเดินเรือประจำทางได้ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ และกรมเจ้าท่าจะพยายามหาแนวทางในการแก้ไขปัญหากับภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด และหากสถานการณ์ปรับเปลี่ยนหรือราคาน้ำมันปรับลดลง จะให้ผู้ประกอบการปรับลดอัตราค่าโดยสารลง เพื่อให้กระทบกับประชาชนที่เดินทางสัญจรทางน้ำน้อยที่สุด
รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ระบุอีกว่า ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการต้องประสบภาวะขาดทุนเดือนละ 3-5 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ผู้โดยสารที่เคยมีมากถึงวันละ 50,000 คน ลดลงเหลือเพียงวันละ 2-3 พันคน และเริ่มดีขึ้นในช่วงนี้ที่ประมาณ 9 พันคน ประกอบราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงถึงลิตรละเกือบ 30 บาท จึงจำเป็นต้องขอปรับขึ้นค่าโดยสาร ส่วนจะมีการปรับขึ้นราคาเพิ่มอีกหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นนั้น แม้ตามหลักเกณฑ์กรอบอัตราค่าโดยสารที่อิงราคาน้ำมัน หากราคาน้ำมันอยู่ในช่วง 29-31 บาท สามารถขึ้นค่าโดยสารเริ่มต้นได้ที่ 11 บาท แต่เชื่อว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอีกในเร็วๆนี้ เช่นเดียวกับค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือข้ามฟาก ที่จะไม่มีการปรับขึ้นราคา เพราะยังอยู่ในช่วงราคาที่เหมาะสม และได้มีการขอปรับขึ้นราคาไปแล้วก่อนหน้านี้ .-สำนักข่าวไทย