ผู้ตรวจการแผ่นดิน 23 ธ.ค.-“หมอเหรียญ-เทพมนตรี” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.ฎ.อภัยโทษปี 62-64 ขัด รธน.หรือไม่ เหตุเป็นช่องทางลดโทษคนโกงชาติ ย้อนแย้งการแก้ทุจริต บ่อนทำลายหลักนิติธรรม คนที่เกี่ยวข้องควรมีโทษอาญาฐานทำระคายเคืองเบื้องยุคลบาท
นพ.เหรียญทอง แน่นหนา และคณะ เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความวินิจฉัย ว่าพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ระหว่างปี พ.ศ.2562-2564 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 60 หรือไม่ นพ.เหรียญทอง กล่าวว่าในฐานะผู้นำคณะประชาชนมาร้องทุกข์เกี่ยวกับกระบวนการพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ที่ทำให้เป็นช่องทางในการลดหย่อนผ่อนโทษนักโทษทุจริตโกงชาติ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ขัดต่อหลักนิติธรรม ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ย้อนแย้งกับมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นการบ่อนทำลายหลักนิติธรรม ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่ทำให้เกิดความสงบสุขความผาสุกของคนในชาติ ถ้าเราปล่อยให้มีการขอพระราชทานอภัยโทษที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ก็คือการสนับสนุนส่งเสริมการทุจริตประพฤติมิชอบภายในประเทศให้มากขึ้น แทนที่จะขจัดให้ลดลง รัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมจะต้องเคร่งครัดกับเรื่องนี้อย่างยิ่งยวด ไม่ใช่เอานักโทษทุจริตทำลายชาติมารวมกับนักโทษคดีทั่วไปมาอาศัยช่องทางอภัยโทษ เรื่องนี้ไม่มีจุดใดเลยที่เห็นข้อดี จะอ้างว่าเป็นการลดจำนวนนักโทษไม่ใช่เหตุผลอย่างยิ่ง เพราะเป็นปัญหาปลายเหตุในการบริหารจัดการ แต่เรื่องหลักนิติธรรมคือหัวใจสำคัญ หากประเทศใดที่ไร้ความยุติธรรมประเทศนั้นไม่มีวันสงบ และความไม่สงบที่เกิดจากคนรักสงบรักความยุติธรรม น่ากลัวกล่าวความไม่สงบที่เกิดจากผู้ตั้งใจก่อความไม่สงบ
นพ.เหรียญทอง กล่าวอีกว่ามาขอความเป็นธรรมผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระบวนการในพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อให้กระบวนการพระราชทานอภัยโทษนักโทษเด็ดขาดคดีทุจริตมีหลักเกณฑ์ที่เชื่อถือได้
“เราคาดหวังสูง ว่าเรื่องที่เราร้องวันนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะนำเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และเราคาดหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ระหว่างปี พ.ศ.2562-2564 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และจะต้องคืนความยุติธรรมด้วยการให้การลดหย่อนผ่อนโทษนั้นเป็นโมฆะ และจะต้องคืนวันจองจำกลับมาเหมือนเดิม ต้องกลับไปตั้งต้นใหม่ จนกว่าจะมีหลักเกณฑ์ที่เชื่อถือได้ โดยสมควรแล้วนักโทษที่บ่อนทำลายชาติโกงชาติ ไม่สมควรได้รับการพิจารณาอภัยโทษ เพราะทุกวันนี้ประเทศยังเป็นหนี้จากการทุจริต ประชาชนยังร่วมกันใช้หนี้ไม่หมด แต่นักโทษเหล่านี้กำลังจะออกมาเสวยสุข เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม” นพ.เหรียญทองกล่าว
นพ.เหรียญทอง ยังกล่าวว่าการที่คณะกรรมการอิสระตรวจสอบเรื่องดังกล่าว มีหนึ่งในคณะกรรมการราชทัณฑ์รวมอยู่ด้วย ส่วนตัวไม่คาดหวัง ไม่เชื่อมั่นว่าคณะกรรมการชุดนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้ ขบวนการบ่อนทำลายชาติ ปล้นชาติคิดให้ดี
“อย่าคิดว่ามีอำนาจเงิน หรือคิดว่ามีประชาชนบางส่วนร่วมมือกับท่าน แต่ประชาชนจำนวนมากยังไม่ลุกฮือ ถ้าเขาลุกฮือท่านจะอยู่ไม่ได้บนแผ่นดินนี้ สังคมนี้คนอย่างผมไม่ใช่คนพูดจาข่มขู่ ถึงผมเป็นหมอ แต่หากถึงวันหนึ่งที่จำเป็น ผมก็จะเป็นผู้นำประชาชนในการปกป้องชาติราชบัลลังก์ ซึ่งประชาชนพร้อมสนับสนุนรัฐบาลในการกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง” นพ.เหรียญทองกล่าว
ด้านนายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิการชื่อดัง กล่าวว่า การยื่นเรื่องร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่การไปก้าวล่วงพระราชอำนาจ แต่ในกรณีดังกล่าวหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ระหว่างปี พ.ศ.2562-2564 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ นายกฯจะต้องขอพระราชทานอภัยโทษแล้วจะต้องไล่บี้กับหน่วยงาน กระทรวงยุติธรรม และผู้ที่เกี่ยวข้องมารับโทษทางอาญา เพราะถือว่าทำให้ระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาท.- สำนักข่าวไทย