ทดสอบหน้ากากอนามัย ไม่ผ่านมาตรฐาน 41 ยี่ห้อ

กทม. 30 พ.ย.-สภาองค์กรของผู้บริโภค เผยผลการทดสอบหน้ากากอนามัย ชนิดใช้ครั้งเดียว 60 ยี่ห้อ พบไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 41 ยี่ห้อ จี้ สมอ.ยกหน้ากากอนามัยเป็นสินค้ามาตรฐานบังคับ

สภาองค์กรของผู้บริโภค หรือ สอบ. และเครือข่ายนักวิชาการเพื่อผู้บริโภคร่วมกันแถลงผลการทดสอบหน้ากากอนามัย ชนิดใช้ครั้งเดียว หลังจากมีประชาชนร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภควุฒิสภา และตั้งข้อสังเกตว่าหน้ากากอนามัยที่ใช้กันทั่วไป อาจไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19


ดร.ไพบูลย์ ช่วงทอง กรรมการนโยบายสภาองค์กรของผู้บริโภค และผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าและบริการ เปิดเผยว่า มีการสุ่มตัวอย่างหน้ากากอนามัย ชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งที่ขายตามท้องตลาด 60 ยี่ห้อ เก็บข้อมูลระหว่าง 16 ส.ค.-3 ต.ค.64 แบ่งเป็นหน้ากากอนามัยใช้งานทั่วไป 14 ยี่ห้อ หน้ากากใช้งานด้านการแพทย์ (Medical grade) และหน้ากากอนามัยด้านการแพทย์ทางศัลยกรรม (Surgical grade) 27 ยี่ห้อ และ หน้ากากกลุ่มอุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจ มาตรฐาน N95 และ KN95 จำนวน 19 ยี่ห้อ นำไปทดสอบประสิทธิภาพการกรองอนุภาคขนาดเล็ก 0.1ไมครอน และ 0.3ไมครอน และทดสอบการซึมผ่านของอากาศและการทดสอบการหายใจ ตรวจวิเคราะตามมาตรฐาน มอก.2424-2562

ดร.ไพบูลย์ ระบุถึงผลการทดสอบ พบว่าในระดับการป้องกันการใช้งานทั่วไป ที่กำหนดให้ต้องมีประสิทธิภาพการกรองอนุภาคไม่น้อยกว่า ร้อยละ95 ต้องมีค่าความดัน ไม่เกิน 4.0 mm H20/Cm2 จากการทดสอบทั้งหมด 14 ยี่ห้อ ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 3 ยี่ห้อ มี 1 ยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐาน แต่ไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ และไม่ผ่านเกณฑ์ 11 ยี่ห้อ ระดับป้องกันการใช้งานด้านการแพทย์ (Medical grade) และด้านการแพทย์ทางศัลยกรรม (Surgical grade) กำหนดให้ต้องมีประสิทธิภาพการกรองอนุภาคไม่น้อยกว่า ร้อยละ98 ต้องมีค่าความดัน ไม่เกิน 5.0 mm H20/Cm2 จากการทดสอบทั้งหมด 27 ยี่ห้อ ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 3 ยี่ห้อ ไม่ผ่านเกณฑ์ 24 ยี่ห้อ ระดับป้องกันการใช้งานปกป้องทางเดินหายใจ มาตรฐาน N95 และ KN95 กำหนดให้ต้องมีประสิทธิภาพการกรองอนุภาคไม่น้อยกว่า ร้อยละ95 ต้องมีค่าความดัน ไม่เกิน 3.5 mm H20/Cm2 จากการทดสอบทั้งหมด19ยี่ห้อ ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 13 ยี่ห้อ ไม่ผ่านเกณฑ์ 6 ยี่ห้อ


นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า ผลการทดสอบครั้งนี้จะทำให้ผู้บริโภคมีข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อหน้ากากอนามัย ซึ่ง สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้มีการนำข้อมูลนี้เสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) อย. และ สคบ. โดยสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้เสนอให้ สมอ.กำหนดให้หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวเป็นมาตรฐานบังคับและกำหนดบทลงโทษในกรณีที่ผู้ประกอบการกระทำผิดหรือ ละเมิดสิทธิผู้บริโภค และเสนอให้อย.ตรวจสอบเชิงรุกกับหน้ากากอนมัยที่ผลิตในประเทศหรือนำเข้า เพื่อให้หน้ากากอนามัยมีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง