กกต. 22 พ.ย.-กกต.แจ้งจังหวัดเปิดรับฟังความเห็นร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. 37 มาตราแล้ว หลัง รธน.แก้ไขเพิ่มเติมมีผลใช้บังคับ ทั้งบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ-วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชี แบ่งเขตใหม่ 400 ใน 90 วัน ลดเวลาลงคะแนน เผยให้เวลา15 วัน ก่อนชงรัฐดันเข้าสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายเลือกตั้ง หลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ โดยมีรายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ได้มีหนังสือถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมสำเนาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ…ฉบับที่ เพื่อให้ทางสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 77 กำหนดแล้ว หลังรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่1) 2564 มีผลใช้บังคับวันนี้
การเปิดรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวจะใช้เวลาราว 15 วัน ก่อนที่สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดจะส่งกลับมายังสำนักงาน กกต.กลาง เพื่อรวบรวมความคิดเห็น นำเสนอต่อที่ประชุม กกต.และปรับปรุงร่างกฎหมาย จากนั้นจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี สำนักงานกฤษฎีกา และรัฐสภาต่อไป
สำหรับร่าง พ.ร.ป.ว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นนั้น มีการแก้ไขทั้งหมด 37 มาตรา สาระสำคัญที่มีการแก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มีการประกาศใช้ประกอบด้วย การให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จำนวน ส.ส.เขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับเลือกตั้งทั้งประเทศมารวมกัน หารด้วย 100 เพื่อให้ได้คะแนนต่อ ส.ส. 1 คน หากจัดสรรแล้วยังได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ครบ100 คน ก็จะจัดสรรให้กับพรรคที่คะแนนเหลือเศษมากตามลำดับ การแบ่งเขตใหม่ 400 เขตให้เสร็จใน 90 วัน ส.ส.เขตใช้เบอร์เดียวกับเบอร์พรรค โดยการสมัครเปิดรับสมัครแบบแบ่งเขตก่อน แล้วจึงรับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ เมื่อได้เบอร์พรรคแล้ว จึงใช้เบอร์นั้นกับผู้สมัครที่พรรคส่งใน 400 เขต การลดเวลาลงคะแนนเลือกตั้งเหลือ 08.00-16.00 น. การเพิ่มกรรมการประจำหน่วยเป็น 9 คน และกำหนดจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่อหน่วย 800 คน
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางสำนักงาน กกต.กำลังเร่งยกร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีการแก้ไขในเรื่องกระบวนการจัดทำไพรมารีโหวตส่งผู้สมัครของพรรคการเมือง ซึ่งหลังดำเนินการเสร็จและผ่านที่ประชุม กกต. แล้วก็จะมีการส่งไปยังสำนักงาน กกต.จังหวัด เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องและประชาชน เช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย