ทำเนียบรัฐบาล 18 พ.ย.- “พล.อ.ประวิตร” เร่งพัฒนาแหล่งน้ำปี 65 – 67 เพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำ ป้องกันน้ำท่วมอย่างยั่งยืน
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 5/2564 (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) มี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการ สทนช. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม อาทิ กรมชลประทาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น
พลเอกประวิตร กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ในห้วงเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการที่เสนอให้ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าและพิจารณาในวันนี้ ล้วนเป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ โดยได้เน้นย้ำทุกการขับเคลื่อนแผนงานโครงการ หากพบปัญหาอุปสรรคขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันแก้ไขปัญหาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนรับทราบโครงการอย่างต่อเนื่องด้วย โดยได้สั่งการให้ สทนช. นำเป้าหมายโครงการสำคัญเข้าสู่กระบวนการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการใช้รายการโครงการสำคัญดังกล่าว เป็นกรอบในการจัดทำแผนงานโครงการเพื่อเข้าสู่กระบวนการขอรับงบประมาณตามเป้าหมาย รวมทั้งให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และ สทนช. ใช้เป็นกรอบในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ตามลำดับความสำคัญ เพื่อตอบสนองตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ทั้ง 6 ด้าน อย่างยั่งยืนต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการปรับปรุงเป้าหมายการขับเคลื่อนโครงการสำคัญจากเดิมขับเคลื่อนในปี 64-66 เป็นเป้าหมายการขับเคลื่อนในปี 65-67 โดยปรับนิยามความหมายของโครงการสำคัญให้มีความชัดเจนถึงผลสัมฤทธิ์ในมิติต่างๆ มากยิ่งขึ้น รองรับโครงการสำคัญในอนาคต และเกิดประสิทธิภาพในด้านงบประมาณ ทั้งเชิงพื้นที่ (Area Based) นโยบาย (Agenda) และโครงการขนาดใหญ่ (Function) ทั้งนี้ จากการปรับปรุงเป้าหมายการขับเคลื่อนโครงการสำคัญเบื้องต้น ในปี 65-67 จำนวนทั้งสิ้น 69 โครงการ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะได้ปริมาณน้ำใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น 7,505 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 5.785 ล้านไร่ พื้นที่ป้องกันน้ำท่วม 5.638 ล้านไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ 2.628 ล้านครัวเรือน
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบโครงการสำคัญและโครงการขนาดใหญ่ 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ ส.ป.ก. (จ.กระบี่) เพื่อสนับสนุนพื้นที่เกษตรกรรม 3,321 ไร่ มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นโมเดลการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการลดความเลื่อมล้ำให้กับประชาชนมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ขณะที่อีก 3 โครงการดำเนินการโดยกรมชลประทานที่ประชุมให้ความเห็นชอบในหลักการ ซึ่งก่อนนำเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุม กนช. ต้องได้รับความเห็นชอบการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว รวมถึงกรมชลประทานต้องดำเนินการชี้แจงและประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รับทราบการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด .-สำนักข่าวไทย