สาว 21 ขี่ จยย.ตกท่อระบายน้ำดับ หลังเป่าเค้กวันเกิด

สมุทรปราการ 14 พ.ย.- สาววัย 21 ปี เพิ่งเป่าเค้กวันเกิดกับเพื่อนที่ทำงานหมาดๆ ก่อนขี่รถจยย. กลับบ้านพร้อมเค้ก แต่ระหว่างทางประสบอุบัติเหตุตกท่อระบายน้ำที่เปิดฝาทิ้งไว้เสียชีวิตทันที 


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ (14 พ.ย.) บนถนนสายหมู่บ้านวโรชา ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มเกยอยู่บนปากท่อระบายน้ำที่กำลังก่อสร้าง โดยไม่มีฝาปิด และไม่มีไฟเตือนอันตราย นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบเค้กวันเกิดของผู้ตายตกอยู่ข้างท่อระบายน้ำ ภายในท่อพบร่างหญิงสาวเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้าจมน้ำ เจ้าหน้าที่ต้องลงไปในท่อระบายน้ำ เพื่อช่วยกันอุ้มร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาบนถนน จากการตรวจสอบพบที่ศีรษะมีบาดแผลขนาดใหญ่ ทราบชื่อนางสาวอารีญา อายุ 21 ปี 

จากการสอบสวนทราบว่า วันนี้เป็นวันเกิดของผู้ตาย เพื่อนร่วมงานจึงซื้อเค้กมาเซอร์ไพรส์ หลังเลิกงานผู้ตายได้นำเค้กดังกล่าวใส่ถุง แล้วขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักย่านคลองด่านตามปกติ แต่ด้วยสภาพเส้นทางที่มืด จึงอาจทำให้ผู้ตายมองไม่เห็นบริเวณไหล่ทางซึ่งเป็นท่อระบายน้ำมีการซ่อมบำรุง โดยผู้รับเหมาได้เปิดฝาท่อเอาไว้ โดยไม่มีสัญญาณไฟเตือน มีเพียงเสาจราจรขาว-แดงวางกั้นเอาไว้เท่านั้น จึงทำให้ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ชนเข้ากับฝาท่อก่อนกระเด็นตกลงไปในท่อระบายน้ำซึ่งมีน้ำขังอยู่จนทำให้เสียชีวิตทันที  


ชาวบ้านเล่าว่า เหตุเกิดช่วงดึก หลานชายได้ยินเสียงหมาเห่า จึงออกมาดูก็เห็นรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ที่ท่อระบายน้ำ แต่ไม่เห็นคนขับ เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นผู้ตายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในน้ำภายในท่อระบายน้ำ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ พร้อมเผยถนนเส้นนี้ช่วงกลางคืนจะมืดมาก ทั้งยังเป็นช่วงโค้ง 

จากการตรวจสอบพบว่า ในที่เกิดเหตุยังมีก้อนเค้กของผู้ตายตกอยู่ข้างท่อระบายน้ำที่ผู้ตายตกลงไปหลังประสบอุบัติเหตุ ส่วนท่อระบายน้ำที่เปิดฝาอยู่มีความกว้างประมาณ 1 ตารางเมตร แต่ละท่อที่ถูกเปิดฝาทิ้งเอาไว้มีระยะห่างกันประมาณ 3 เมตร ไม่พบป้ายโครงการก่อสร้างหรือโครงการซ่อมบำรุงของผู้รับเหมาว่าดำเนินการโดยบริษัทใด ทราบจากคนในพื้นที่เพียงว่า ถนนเส้นนี้อยู่ในความดูแลของ อบต.บางเพียง ซึ่งได้ว่าจ้างให้บริษัทผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการซ่อมบำรุงท่อระบายน้ำขณะที่ล่าสุด ผู้รับเหมาได้นำหลอดไฟขนาดเล็กมาติดเพื่อให้สัญญาณแก่ผู้ใช้ทางในช่วงกลางคืน

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกตัวผู้รับเหมา มาสอบสวนเกี่ยวกับการที่เปิดฝาท่อ แต่ไม่ติดตั้งสัญญาณไฟเตือน ซึ่งอาจเข้าข่ายกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนศพผู้ตาย ขณะนี้ยังอยู่ที่สถาบันนิติเวช ญาติเตรียมรับกลับไปบำเพ็ญกุศลในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ ที่วัดสร่างโศก อ.บางบ่อ .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง