กรุงเทพฯ 27 ม.ค. คาดบล๊อกเชนท์ เทคโนโลยีในการบริหารจัดการฐานข้อมูลแบบใหม่ที่สามารถโอนมูลค่า สินทรัพย์ ข้อมูลไปยังผู้รับถูกใช้แพร่หลายภายใน 3 ปี เผย สพธอ. เตรียมแก้กม.ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยอมรับการสื่อสารระหว่างระบบ
นายภูมิ ภูมิรัตน์ ที่ปรึกษาด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) กล่าวว่า บล๊อกเชนท์ คือ เทคโนโลยีในการบริหารจัดการฐานข้อมูลแบบใหม่ที่สามารถโอนมูลค่า สินทรัพย์ ข้อมูลไปยังผู้รับ ที่มีความปลอดภัย มั่นคง น่าเชื่อถือ และประหยัด บล๊อกเชนท์ อาจจะเรียกว่าเป็นเจนเนอเรชั่นถัดไปของอินเทอร์เน็ตก็ว่าได้ ประโยชน์ของบล๊อกเชนท์มีประโยชน์มากมา แม้เป็นเทคโนโลยีที่ฟังดูเข้าใจยากแต่พัฒนาขึ้นได้ง่ายสามารถดูแลและนำไปใช้ได้ง่ายภายใต้ต้นทุนต่ำ ประเทศไทยเริ่มนำบล๊อกเชนท์มาใช้ในอุตสาหกรรมการเงิน โดยธนาคารกสิกรไทยเอามาใช้ในการให้บริการออกหนังสือรับรองทางการเงิน (letter of guarantee) และกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนกำลังนำมาใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลของคนไข้ คาดว่า บล๊อกเชนท์ จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจและเกิดกระแสในการนำไปใช้อย่างกว้างขวางภายในปี 2018
นายธีรพล สุวรรณประทีป ที่ปรึกษากฏหมายและทนายความหุ้นส่วน บริษัทเบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ กล่าวว่า ในทางกฏหมายเพื่อให้เกิดความมั่นใจ สักนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)อยู่ระหว่างการแก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรับรองให้การสื่อสารระหว่างเครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์ได้รับการยอมรับและมีความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ข้อมูลส่วนบุคคลที่นำมาแลกเปลี่ยนกันได้ต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าของในการเก็บข้อมูลและนำไปแลกเปลี่ยน บล๊อกเชนท์ เหมือนดาบสองคม ความสำคัญจึงอยู่ที่การนำบล๊อกเชนท์ไปใช้อย่างไร ไม่จำเป็นต้องมีกฏหมายเฉพาะแค่มีเพียงกฏหมายที่อำนวยให้กลไกของบล๊อกเชนท์สามารถนำมาใช้ได้ จากนั้นกฏหมายของแต่ละธุรกิจจะดูแลการทำธุรกรรมเอว สิ่งที่เกิดขึ้นและถูกนำไปใช้กับบล๊อกเชนท์คือ bitcoin สกุลเงินดิจิตอลผู้ใช้บิทคอยน์สามารถโอนบิดคอยน์ระหว่างกันและนำไปใช้ในการซื้อขายสินค้าแทนเงิน ในปี 2016 บิดคอยน์มีสัดส่วนร้อยละ 5 ของการทำธุรกรรมการเงินทั่วโลก ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องช่วยกันคิดว่าจะดูแลให้การทำธุรกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต่างประเทศให้ความสนใจบิดคอยน์มีความตื่นตัวในการทำวิจัยศึกษาบิดคอยน์ สำหรับประเทศไทยแท้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จะยังไม่รองรับบิดคอยน์แต่มีการศึกษาถึงผลกระทบและการรับมือกับบิดคอยน์ เรื่องจากในประเทศไทยมีผู้ใช้บิดคอยน์จำนวนมาก โดยมีผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบิดคอยน์รายใหญ่ถึง 2 ราย รวมมูลค่าที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนบิดคอยน์ปีละหลายร้อยล้านบาท
“ทั่วโลกไม่มีใครควบคุมบิดคอยน์ แต่จะกำกับดูแลผ่าน ผู้ให้บริการซื้อ-ขายบิดคอยน์ หรือ wallet provider โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้ให้บริการ โดยกระบวนการทั้งหมดสามารถตรวจสอบการนำไปใช้ใยฝนทางที่ผิดได้” นายธีรพล กล่าว- สำนักข่าวไทย