กรุงเทพฯ 25 ก.พ.-ก.ล.ต.ห่วงนักลงทุนสกุลดิจิทัล จัดรับฟังความคิดเห็นร่างหลักเกณฑ์ผู้ลงทุนต้องมีความรู้และมี รายได้1ล้านบาท/ปี ท่ามกลางความเห็นค้านระบุปิดกั้นนักลงทุน
น.ส.จอมขวัญ คงสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายระดมทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)กล่าว ในรายการ นาทีลงทุน ดำเนินรายการโดยสำนักข่าวไทยระบุว่าเงินสกุลเงินดิจิทัลในตลาดโลกผันผวนรุนแรง ซึ่ง ก.ล.ต.มีความเป็นห่วงนักลงทุน อาจเกิดความเสียหายได้ โดยจะเห็นว่าจากสภาพคล่องการเงินในตลาดมีสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ ประกอบกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินหรือคิวอี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จึงทำให้มีผู้สนใจลงทุนสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น โดยจะเห็นว่ามูลค่าในตลาดโลกผันผวนรุนแรงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 61 มีมูลค่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี62 มีมูลค่าลดลงเหลือ 1 แสนล้านดอลลาร์ ปี 63มีมูลค่า 2แสนล้านดอลลาร์ ปี 64เพียงต้นปี ก็ ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์
“สกุลเงินดิจิทัล ไม่เหมือนสินทรัพย์ตัวอื่น ที่ผูกกับการขึ้นลงของสภาพเศรษฐกิจ หรือการดำเนินการ ไม่รู้มูลค่าที่แท้จริง แต่ขึ้นกับความพึงพอใจในการซื้อขาย ดังนั้น จึงน่าเป็นห่วงว่า หากนักลงทุนกระโจนเข้าไปลงทุนโดยกลัวตกกระบวน และหากไม่กระจายพอร์ตลงทุนไปส่วนอื่นๆ หากนำเงินเก็บไปลงทุนสกุลดิจิทัลทั้งหมดที่มีอยู่ ก็น่ากังวลว่าหากเกิดขาดทุนเสียหายขึ้นมาแล้ว ก็จะกระทบหนัก จากเศรษฐีก็อาจกลายเป็นยาจกได้ทันที” น.ส.จอมขวัญ
ดังนั้น ก.ล.ต. จึงได้เปิดรับฟังความคิดเห็น เรื่อง การกำหนดคุณสมบัติผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี โดยเนื้อหาหลักนักลงทุนต้องมีรายได้ หรือสินทรัพย์ที่มากเกินเกณฑ์ที่กำหนดก่อนที่จะลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี รวมถึงต้องมีความรู้ และทดสอบความรู้ก่อนลงทุนอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยป้องกันความเสี่ยงของนักลงทุน
ทั้งนี้ ข้อมูลรายละเอียดได้มีการเผยแพร่ทาง เฟซบุ๊ก เพจ “สำนักงาน กลต.” ล่าสุด มีผู้แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเห็นว่าข้อกำหนดเบื้องต้นดังกล่าวเป็นการปิดกั้นการลงทุน เป็นต้น
ข้อมูลรายละเอียดแบ่งออกเป็น 1.คุณสมบัติของผู้ลงทุน เพื่อวัดความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน และจะพิจารณา 2 เรื่องหลัก ๆ แบ่งออกเป็น ฐานะการเงิน -ต้องมีรายได้ต่อปี ไม่รวมคู่สมรส 1 ล้านบาท ต่อปี หรือเกินกว่า 8.3 หมื่นบาท ต่อเดือน หรือ -มีสินทรัพย์สุทธิ ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นที่พักอาศัยประจำ หรือ-มีมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ความรู้ โดยผู้ลงทุนจะต้องมีประสบการณ์ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี หรือมีประสบการณ์ลงทุนในหลักทรัพย์ หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่กลต. กำหนด เช่น ผู้แนะนำการลงทุน, นักวิเคราะห์การลงทุน หรือผู้ที่ถือ CFA, CISA, CAIA หรือ CFP หากเรามีคุณสมบัติที่ว่ามาไม่ครบ ก็จะไม่สามารถลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีได้โดยตรง แต่ก็ยังสามารถลงทุนผ่านผู้ที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
ในขณะเดียวกัน ในการเปิดบัญชีใช้บริการใหม่ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องกำหนดเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชีไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
2.การกำหนดให้ผู้ลงทุนต้องผ่านการทดสอบความรู้ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนจะมีความรู้ ความเข้าใจเพียงพอเหมาะสม จึงกำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องทดสอบความรู้ผู้ลงทุน ครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่ ลักษณะของสกุลเงินดิจิทัล ความเสี่ยง และผลตอบแทน โดยผู้ที่จะเข้าไปลงทุนได้ต้องได้รับคะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้ที่ https://bit.ly/3knvOOk ผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: ekarit@sec.or.th และ chawin@sec.or.th จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2564 นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังจัดการเสวนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เพจ “สำนักงาน กลต.” ในวันที่ 24 มีนาคม 2564 เวลา 14.00 – 16.00 น. -สำนักข่าวไทย