กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – ก.ล.ต. ฟัน “หมอปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ”
พร้อมพวก ปั่นหุ้น BA ปรับ 499.45 ล้านบาท
พร้อมห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. )
เปิดเผยการดำเนินคดีลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ (1) นายปราเสริฐ
ปราสาททองโอสถ (2) นางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ และ (3) นางนฤมล ใจหนักแน่น
กรณีสร้างราคาหลักทรัพย์บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BA) โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม
499.45 ล้านบาท
และสั่งห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน
โดยก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในช่วงระหว่างวันที่
13 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 12 มกราคม 2559 นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
นางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ และนางนฤมล ใจหนักแน่น ร่วมกันซื้อขายหุ้น BA อย่างต่อเนื่องและจับคู่ซื้อขายหลักทรัพย์
BA ระหว่างกันเองในลักษณะอำพรางการซื้อขาย
ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และส่งผลให้ราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้น
BA ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
การกระทำของบุคคลทั้งสามเป็นความผิดตามมาตรา 243 (1) (2) ประกอบมาตรา
244 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
พ.ศ. 2535 และมาตรา 317/4 (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต.
นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้งสามราย
โดยกำหนดให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินค่าปรับทางแพ่ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 499.45
ล้านบาท ซึ่งหากผู้กระทำความผิดทั้งสามรายไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่
ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่ง
เพื่อขอให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ การที่ ค.ม.พ. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายปราเสริฐ
นางสาวปรมาภรณ์ และนางนฤมล เป็นเหตุให้ผู้กระทำความผิดทั้งสามราย
ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน
เข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตามประกาศคณะกรรมการ
ก.ล.ต. ที่ กจ. 3/2560 เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท
ลงวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560
และจะต้องพ้นจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่กำหนดในหนังสือที่ ก.ล.ต.
จะแจ้งการมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจดังกล่าวในขั้นตอนหลังจากนี้ต่อไป
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า ในฐานะนักลงทุนสถาบัน มองว่า กรณีที่ ก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย จำเป็นต้องรอการชี้แจงจากทาง BA ก่อน ในเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับการกล่าวโทษ ว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งตาม พ.ร.บ. มาตรา 35 ตลาดทุน ระบุไว้ชัดเจนว่า หากพบผู้บริหารกระทำผิด ก็จะขาดคุณสมบัติการเป็นผู้บริหารและบริษัทจดทะเบียน . – สำนักข่าวไทย