กกต. 27 ม.ค.-“สังศิต” เสนอใช้การเมืองสร้างความปรองดอง หาทางออกประเทศ แต่ไม่ใช่นำนโยบาย 66/23 และ 66/25 มาใช้
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) และคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงการสร้างความปรองดองว่า ตนได้เสนอว่าให้ใช้การเมืองนำการทหาร ซึ่งไม่ใช่การนำนโยบาย 66/23 และ 66/25 มาใช้ ซึ่งอาจมีการสื่อสารที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
“ก่อนนี้สมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เข้ามาแก้ไขสงครามคอมนิวนิสต์ รัฐบาลมีนโยบายใช้การทหารนำการเมือง แต่เมื่อ พล.อ.เปรมเข้ามาดำเนินการ มีการใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร ทำให้ประชาชนที่หลงผิดออกมามอบตัวจำนวนมาก จึงต้องการสื่อสารให้ทราบว่าถ้าจะทำในเรื่องการปรองดองก็ต้องใช้หลักนี้ แต่ไม่ได้บอกว่าให้เอานโยบาย 66/23 หรือ 66/25 มาใช้ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การจะเอานโยบายที่ใช้กับเรื่องหนึ่งได้ มาใช้กับอีกเรื่องหนึ่งอย่างเคร่งครัดทำไม่ได้ จึงขอให้ลืมไปเลย แต่ให้ยึดหลักว่าเราต้องใช้การเมืองนำ และยึดหนักนิติรัฐ นิติธรรม เมตตาธรรม นึกถึงว่าเราคนไทยด้วยกัน ต้องสามัคคี อยู่อย่างสงบสุข ที่พูดว่าใช้นโยบายการเมืองนำ ไม่ได้หมายความว่าต้องให้มีการนิรโทษกรรม การที่รัฐบาลตั้ง ป.ย.ป.ก็เป็นการใช้นโยบายทางการเมืองนำ ซึ่งก็ยังมีวิธีการอื่น ๆ อีกหลายอย่าง” นายสังศิต กล่าว
นายสังศิต กล่าวด้วยว่า ในส่วนของ สปท.ได้มีการเชิญผู้ที่ทำเรื่องการปรองดองทั้ง 9 ชุดในอดีต ทั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกริน นายดิเรก ถึงฝั่ง มาปรึกษาแลกเปลี่ยนข้อมูล
“ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไปว่าเมื่อสถานกาณ์เปลี่ยนแปลงไป เขาเห็นว่าควรจะมีการปรับปรุงข้อเสนอที่เคยมีอย่างไร พรรคการเมืองก็ให้ความร่วมมือ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ กปปส. และ นปช.ก็ร่วมมือ โดยจะทำเอกสารส่งมาภายในวันที่ 31 มกราคม แต่อยากให้เข้าใจว่าเรื่องนี้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ สปท.โดย กมธ.เป็นเพียงผู้รวบรวมความเห็นและจัดทำข้อเสนอแนะเท่านั้น คนที่จะตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ อยู่ที่ ป.ย.ป.” นายสังศิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย