กรุงเทพฯ 26 พ.ย.- นายเลอ ก๊วก มินห์ ประธานสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนาม และคณะสื่อมวลชนจากเวียดนาม พบหารือกับคณะผู้บริหาร บมจ.อสมท และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับวงการสื่อข่าวในยุคปัจจุบัน
นายเลอ ก๊วก มินห์ ประธานสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนาม และหัวหน้าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Nhan Dan ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์อันดับ 1 ของเวียดนาม นำคณะสื่อมวลชนเวียดนาม เข้าเยี่ยมคารวะนายผาติยุทธ ใจสว่าง รองกรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานผลิตภัณฑ์ และรักษาการในตำแหน่งผู้อํานวยการใหญ่ และคณะผู้บริหาร บมจ. อสมท
นายเลอ ก๊วก มินห์ ระบุว่า ปัจจุบันบริบทของสื่อหลัก เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และวิทยุ เปลี่ยนไปจากเดิม เนื่องจากเทคโนโลยีทำให้สื่อออนไลน์และสื่อโซเชียลเข้าถึงผู้บริโภคข่าวสารและข้อมูลได้ง่ายขึ้น ซึ่งนับเป็นความท้าทายของสื่อมวลชนซึ่งเป็นสื่อกระแสหลัก ขณะเดียวกัน ยังได้แสดงความกังวลถึงปัญหาเฟกนิวส์ หรือ ข้อมูลข่าวปลอม ที่จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของ 2 ประเทศ ดังนั้น จึงมีความเห็นว่า สื่อหลักจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีความร่วมมือกัน และบริหารจัดการโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการเผยแพร่ข่าวและข้อมูลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังเห็นว่า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสื่อมวลชนเวียดนาม กับสื่อมวลชนไทย จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศในทุกระดับ
ในการหารือวันนี้ นายเลอ ก๊วก มินห์ ยังได้เสนอให้สื่อมวลชนเวียดนามและไทย จัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น การเสวนา การแข่งขันกีฬา และแลกเปลี่ยนเรียนภาษา ฯลฯ เพื่อความใกล้ชิด สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันและกัน อันจะนำไปสู่ความร่วมมือในด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น จึงเชิญชวนให้ บมจ. อสมท ส่งผู้สื่อข่าวเข้าร่วมกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ รวมทั้งเชิญ บมจ. อสมท ส่งผู้บริหารเข้าร่วมเวทีสัมมนาซึ่งสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2568 ด้วย
ด้านนายผาติยุทธ ใจสว่าง รองกรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานผลิตภัณฑ์ และรักษาการในตำแหน่งผู้อํานวยการใหญ่ กล่าวว่า อสมท เป็นสื่อหลักกึ่งรัฐของไทย ก่อตั้งมา 72 ปี มีทั้งสถานีโทรทัศน์และเครือข่ายวิทยุทั่วประเทศ โดยมีสำนักข่าวไทย เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานด้านการเผยแพร่ข่าวสาร ปัจจุบัน อสมท ก็เผชิญความท้าทายจากกระแสการเปลี่ยนแปลงในแวดวงสื่อ (media disruption) เช่นเดียวกับสื่อหลักอื่น ๆ ในโลก จึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับประธานสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามในประเด็นการรักษาสถาบันสื่อหลัก รวมทั้งการหาวิธีบรรเทาปัญหาการสร้างข่าวลวง และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ทำกิจกรรมความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนการไปมาหาสู่กันเพื่อประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่าย
ขณะที่นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล เลขาธิการสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ได้หยิบยกข้อดีของรายการ “ชัวร์ก่อนแชร์” ซึ่งผลิตและเผยแพร่โดย บมจ. อสมท ว่าเป็นกรณีตัวอย่างที่ดีของสื่อไทย ในการช่วยสาธารณชนแยกแยะและตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร
สำนักข่าวไทย ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบความถูกต้องของแหล่งข่าวก่อนการเผยแพร่ จึงมั่นใจได้ว่าทุกข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวไทย มีความถูกต้องแม่นยำ ที่ผ่านมาข้อมูลของสำนักช่าวไทยได้รับความเชื่อถือจากหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งนำไปใช้เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงอยู่เสมอ
นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล เลขาธิการสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้นำคณะผู้บริหารสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามเยี่ยมคารวะคณะผู้บริหาร บมจ.อสมท กล่าวว่า สมาพันธ์ฯ ได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ และความร่วมมือ ที่บมจ. อสมท มีให้แก่สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยในการต้อนรับสื่อต่างชาติมาโดยตลอด นอกจากนี้ บมจ. อสมท ยังเป็น 1 ในองค์กรสื่อมวลชนไทยที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานสื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย จึงได้นำคณะผู้บริหารสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนาม เข้าพบปะหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น.-810.-สำนักข่าวไทย