ภูมิภาค 22 ต.ค.-แม่น้ำมูล ล้นตลิ่งไหลท่วมชุมชนลุ่มต่ำ สองฝั่งแม่น้ำในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบอีกครั้ง ขณะที่ชาวอ่างทองใช้แกลลอนขนรถหนีน้ำระลอกสอง ส่วนน้ำท่วมเหนือเขื่อน-ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ยังสูง
แม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M 7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี กลับมาล้นตลิ่ง ไหลท่วมชุมชนลุ่มต่ำ สองฝั่งแม่น้ำในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ น้ำเริ่มลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุจากพายุคมปาซุ และมวลน้ำชุดแรกไหลจากจังหวัดนครราชสีมา ทำระดับน้ำปรับขึ้น 4 ซม. อัตราการไหลความเร็ว 2,318 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ชาวชุมชนวังแดง เทศบาลนครอุบลราชธานี ที่อพยพหนีน้ำท่วม เมื่อเดือนกันยายน ยังต้องอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพสวนสาธารณห้วยม่วง ต่อไป รวมทั้งชาวชุมชนอื่นๆ อีก 24 ชุมชน กว่า 349 ครอบครัว กว่า 1,354 คน
ชาวชุมชนวังแดง บอกว่า ทำใจกับน้ำท่วมที่เกิดขึ้นได้แล้ว ปีนี้ปล่อยทรัพย์สินบางส่วนจมน้ำเสียหาย เพราะคิดว่าน้ำไม่ท่วมสูง เมื่อน้ำกลับมาปรับสูงขึ้นอีก คาดต้องอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพไปถึงเดือนธันวาคมถึงจะได้กลับลงไปอยู่ที่บ้านได้ ทั้งนี้ จังหวัดยังจับตาพายุหมาเหล่าที่กำลังก่อตัว และคาดจะเริ่มส่งผลกระทบทำให้มีฝนตกอีกครั้งในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ส่วนหัวของมวลน้ำจากแม่น้ำชี คาดจะมาถึงจังหวัดในวันที่ 23-24 ต.ค.นี้
ท่วมถึงขื่อ ชาวอ่างทองใช้แกลลอนขนรถหนีน้ำระลอกสอง
ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ต้องใช้แกลลอนพลาสติกขนาด 200 ลิตร รวม 3 ใบ และใช้แกลลอนขนาดเล็กอีก 2 ใบ ผูกติดกับรถจักรยานยนต์ชอปเปอร์ ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม เพื่อให้ลอยน้ำก่อนใช้เรือพายลากออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร อย่างทุลักทุเล เพื่อนำมาจอดไว้ริมถนนโผงเผง-บางบาล หน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบาลบ้านเลน หลังระดับน้ำที่ท่วมสูงมานานกว่าหนึ่งเดือน เพิ่มระดับสูงต่อเนื่อง จนท่วมชั้นสองของตัวบ้านทำให้ไม่สามารถเก็บทรัพย์สินหนีย้ำไว้ได้ จึงต้องใช้วิธีลอยน้ำออกมาด้านนอก เพราะไม่มั่นใจว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกเท่าไหร่ โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ต้องขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำออกมาจากบ้าน สำหรับจังหวัดอ่างทอง มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 5 อำเภอ 41 ตำบล 188 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 5816 ครัวเรือน ล่าสุด เขื่อนเจ้าพระยาที่ชัยนาทระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนที่ 2,779 ลบ.เมตร/วินาที ทำให้ระดับน้ำที่หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง กลับเข้าสู่ระดับวิกฤติอีกครั้ง
น้ำท่วมเหนือเขื่อน-ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ยังสูง
แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.ชัยนาท ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ยังมีปริมาณมากกว่า 3,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ อ.เมืองชัยนาท ยังมีระดับสูงขึ้นอยู่ โดยที่ ต.ธรรมามูล น้ำได้ไหลเข้าท่วมวัดดักคะนน โรงเรียนชุมชนวัดดักคะนน และที่พักสงฆ์ ศูนย์ปฏิบัติธรรมและอบรมเยาวชนชัยนาท สูง 30 เซนติเมตร
ส่วนคันกระสอบทรายกั้นน้ำ ถ.หน้าวัดลัดเสนาบดี จุดเชื่อมต่อ หมู่ที่ 1 ต.เขาท่าพระ และ หมู่ที่ 7 ต.ธรรมามูล ตอนนี้ระดับน้ำสูงขึ้นกว่า 1 เมตร ปริ่มคันกระสอบทราย ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง ต้องเร่งเสริมคันกระสอบทรายขึ้นอีก 2 ชั้น เป็น 4 ชั้น รวมระยะทาง กว่า 700 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านชั้นใน
สำหรับสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ (22 ต.ค.) น้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 2,644 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลดลง 25 ลบ.ม./วินาที) น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี มีปริมาณ 226 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลดลง 49 ลบ.ม./วินาที) ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 3,206 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อน ที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้น 6 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 17.46 เมตร (รทก) น้ำระบายท้ายเขื่อน 2,758 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลดลง 13 ลบ.ม./วินาที) น้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา ลดลง 3 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.15 เมตร (รทก) น้ำผันเข้าระบบชลประทาน มีปริมาณรวมกัน 448 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที.-สำนักข่าวไทย