ภูมิภาค 20 ต.ค. – สถานการณ์น้ำ จ.ชัยนาท เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำใกล้แตะ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ท้ายเขื่อนน้ำล้นตลิ่งท่วมอีก 3 ตำบล ชาวบ้านร้องปล่อยน้ำเร็วกว่ารอบแรก ขนของหนีน้ำไม่ทัน
เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 2,766 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท สูงขึ้น 22 เซนติเมตร และล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนฝั่งตะวันตก เพิ่มขึ้นอีก 3 ตำบล ได้แก่ ต.บางหลวง ต.สรรพยา ต.โพนางดำตก เป็นรอบที่ 2 โดยกระแสน้ำไหลข้ามแนวกระสอบทราย ผุดตามท่อระบายน้ำ ตามรั้วบ้าน เข้าท่วมในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต้องเร่งขนของขึ้นที่สูง และนำรถยนต์ รวมทั้งสัตว์เลี้ยง หนีน้ำท่วมออกไปไว้ริมถนนชัยนาท-สิงห์บุรี แต่มีไก่ชนบางส่วนขนย้ายไม่ทัน ต้องนำขึ้นไปไว้บนแคร่ไม้ที่ทำยกพื้นให้สูงพ้นจากน้ำ
ชาวบ้าน ต.โพนางดำตก บอกว่าน้ำท่วมครั้งนี้มาเร็วและท่วมสูงขึ้นเร็วกว่าครั้งก่อน ทำให้บางคนขนของหนีน้ำไม่ทัน จึงไม่เชื่อว่าตัวเลขระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาแสดงในแต่ละวันจะเป็นจริงตามที่แสดง
สำหรับวันนี้แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 2,691 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลง 13 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แม่น้ำสะแกกรัง ไหลผ่าน จ.อุทัยธานี มีปริมาณ 306 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 34 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 3,155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำผันเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเจ้าพระยา มีปริมาณรวมกัน 402 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำระบายท้ายเขื่อน 2,766 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 93 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้น 14 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 17.29 เมตร(รทก) น้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา เพิ่มขึ้น 22 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.17 เมตร
เจ้าพระยาน้ำท่วมเพิ่มต่อเนื่อง 3 อำเภออ่วม
ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากการที่เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำและคลองธรรมชาตินอกคันกั้นน้ำชลประทาน ได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากแม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล ท่วมบริเวณบ้านเรือนและที่อยู่อาศัย โดยที่ ต.บ้านแป้ง อ.บางปะอิน น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมในหมู่บ้านรอบที่ 2 ทำให้การสัญจรไปมายากลำบาก ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ
ส่วนพื้นที่ อ.บางซ้าย ชลประทานได้ผันน้ำลงทุ่งเจ้าเจ็ดสุพรรณ ทำให้ปริมาณน้ำในทุ่งเต็มสองฝั่ง และท่วมถนนเส้นทางจากบางซ้าย ปลายกลัด ไปถึง ต.รางจระเข้ จ.เสนา ต.ลำตะเคียน อ.ผักไห่ บางช่วงน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร
ด้านนายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา บอกว่า กรมชลประทานเพิ่มการรับน้ำเข้าฝั่งตะวันตกลงแม่น้ำน้อยและฝั่งตะวันออก ปรับเพิ่มการรับน้ำเข้าคลองชัยนาท- ป่าสัก พร้อมหน่วงน้ำไว้เหนือเขื่อนจ้าพระยา ควบคู่กับการควบคุมระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา มีผลทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูง 0.20-0.40 เมตร ในช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคมนี้ บริเวณแม่น้ำน้อย พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบมากสุด ได้แก่ อ.ผักไห่ เสนา และบางบาล พร้อมกันนี้กรมชลประทานจะระบายน้ำเข้าทุ่งต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยผันน้ำเข้าทุ่งผักไห่ บางบาล-บ้านแพน เพื่อบรรเทาน้ำท่วมสูงของชุมชนริมฝั่ง ซึ่งทุ่งแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่รอยต่อ 4 อำเภอ 2 จังหวัด ได้แก่ อ.เสนา ผักไห่ บางบาล และ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
แม่น้ำท่าจีนล้นตลิ่งท่วมวัด-ตลาด
ที่ จ.นครปฐม เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำท่าจีน น้ำทะลักเอ่อล้นเข้าท่วมวัดและสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ
โดยที่วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี ถูกน้ำจากแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ พระสงฆ์ สามเณร และชาวบ้านในชุมชน ต้องช่วยกันทำกระสอบทรายวางเป็นคันกั้นน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่
จากการสอบถามชาวบ้านที่มาช่วยวัดทำกระสอบทรายกั้นน้ำ เล่าว่าน้ำท่วมมาหลายวันแล้ว แต่สามารถป้องกันได้ โดยวางกระสอบทราย 3 ชั้น และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง สูบระบายน้ำต่อเนื่องตลอดทั้งวัน สามารถป้องกันน้ำได้ แต่เมื่อคืนนี้น้ำมามาก เอ่อเข้าท่วมวัดเต็มพื้นที่ จึงต้องมาตั้งกระสอบทรายเพิ่ม
ส่วนที่ตลาดห้วยพลู อ.นครชัยศรี ชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำท่าจีน มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ ชาวบ้านในชุมชนต้องมาช่วยกันทำกระสอบทรายกั้นน้ำ
นายเอกพล ไหลวัฒนชัย กำนันตำบลห้วยพลู อ.นครชัยศรี เล่าให้ฟังว่า หลังน้ำท่วมปี 2554 เทศบาลตำบลห้วยพลูได้สร้างเขื่อนริมน้ำ ป้องกันน้ำท่วมให้กับชุมชน โดยยึดระดับน้ำปี 2554 เป็นเกณฑ์ แต่วันนี้ระดับน้ำเหลืออีกประมาณ 50 เซนติเมตร จะเท่ากับปี 2554 ขอให้ผู้เกี่ยวข้องค่อยๆ ระบายออกมา วันละไม่เกิน 10 เซนติเมตร ยังสามารถป้องกันได้.-สำนักข่าวไทย