สธ.19 ต.ค.-ครั้งแรกสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของสตรีมีครรภ์ไทย คือโควิด-19 ช่วงปีที่ผ่านมามากถึง 192 ราย
นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย แถลงว่า สถานการณ์ทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่าสตรีมีครรภ์ติดเชื้อโควิด เพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 50-60 จากภาวะปกติทำให้โควิด-19 เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของสตรีมีครรภ์ในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย โดยในยุโรปและอเมริกาพบว่าโควิดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของสตรีมีครรภ์หรือ1 ใน 4 เสียชีวิตจากโควิด
เช่นเดียวกับในประเทศไทยตั้งแต่ ตุลาคม2563 ถึงกันยายน 2564 ในช่วงโควิดระบาดระลอก 2-4 พบว่าสตรีมีครรภ์เสียชีวิตทั้งหมด 192 คนในจำนวนนี้เสียชีวิตจากโควิดถึง 78 คน หรือคิดเป็นอัตราการเสียชีวิตจากโควิดถึงร้อยละ 40 ที่เหลือเป็นการเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นเช่นตกเลือด
ขณะที่ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงปัจจุบันมีสตรีมีครรภ์ติดเชื้อโควิดถึง 4,778 ราย มีทารกติดเชื้อจากแม่ 226 ราย ในจำนวนนี้แม่เสียชีวิต 95 รายทำให้มีลูกเสียชีวิตด้วยกันกับแม่ถึงครึ่งหนึ่งหรือ 46 ราย ส่วนมากเกิดในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดชายแดนใต้
ขณะที่การรณรงค์ให้หญิงมีครรภ์ได้รับวัคซีนเพิ่งเริ่มจริงจัง เมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมาพบว่าหญิงมีครรภ์ได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกเพียง 74,625 คน เข็มที่สอง 51,989 คน ทำให้จากที่ตั้งเป้าไว้ 100,000 คนฉีดไปได้เพียง 7.5หมื่นคน เท่านั้นขณะที่ยังมีหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องได้รับวัคซีนทั้งหมดอีกกว่า 3 แสนคน จึงต้องเร่งรณรงค์อย่างเข้มข้นให้หญิงมีครรภ์ได้รับวัคซีนเร็วที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่หญิง มีครรภ์ได้รับการฉีดวัคซีนน้อยมากเพียงร้อยละ 10-20 เท่านั้น
ขณะที่ผลสำรวจอนามัยโพล มีหญิงมีครรภ์ครึ่งหนึ่งยังไม่ได้ได้รับการฉีดวัคซีน สาเหตุจากลังเลไม่แน่ใจเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน สูตรไขว้ต่างๆ รวมทั้งคิดว่าตนเองไม่มีความเสี่ยง และมีโอกาสติดเชื้อน้อย ขณะที่ผลสำรวจพบว่าหญิงมีครรภ์จำนวนมากยังต้องเดินทางไปทำงานนอกบ้าน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันติดเชื้อและเจ็บป่วยรุนแรง
นพ.เอกชัยจึงแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือนขึ้นไปสามารถมาฉีดวัคซีนโควิดได้ที่คลินิกหรือสถานบริการใกล้บ้านได้ทุกวัน .-สำนักข่าวไทย