18 ต.ค. – จากกรณี 2 แม่ลูกหายตัวไป สามีคาดถูกอุ้มไปเรียกค่าไถ่ สุดท้ายโอละพ่อ ที่แท้ไปเที่ยวแล้วแบตหมด
กรณีนายพุภธิพงษ์ กุลชศิลป์ เข้าแจ้งความกับตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางบอน ให้ติดตาม น.ส.สุพิตร ภรรยา อายุ 33 ปี และลูกชายวัย 4 ปี ซึ่งหายจากบ้านพักภายในโรงงานประติมากรรม แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ โดยหายตัวไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2564 ในช่วงบ่าย ติดต่อภรรยาไม่ได้ ไม่ทราบว่าหายไปไหน โดยส่งไลน์มาหาสามีว่า “ช่วยด้วย” จากนั้นติดต่อไม่ได้อีกเลย
ล่ล่าสุด พ.ต.อ.นรินท์โชติ พงศ์พิธานนท์ ผกก.สน. บางบอน พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สน.บางบอน ได้ติดตาม ภรรยาของผู้แจ้งความ และลูกชายได้ที่ จ.เพชรบุรี ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ก่อนจะนำตัวกลับมาที่สถานีตำรวจ
น.ส.สุพิตร เล่าว่า “ตนเองนั่นเครียดเรื่องงานที่ทำที่โรงงาน บวกกับอยากพาลูกเที่ยวพักผ่อน จึงออกจากบ้านพักไปพร้อมกับลูกชาย นั่งรถแท็กชี่ไปที่ จ.สมุทรสาคร ที่หน้าวิทยาลัยเทคนิค หลังจากนั่นก็กดเงินสดที่ตูเอทีเอ็ม แล้วพิมพ์ไปบอกสามีว่า “ช่วยด้วย” ในไลน์ แล้วแบตเตอรี่ก็หมด โดยพิมพ์ไปเพื่อให้สามีมารับ โดยไม่ได้บอกสามีว่าจะเดินทางไปที่ไหน หลังจากนั่นเดินทางไปที่ จ.ปทุมธานี เพื่อหาเพื่อนแต่ไม่พบจึงเดินทางไปนั่งรถทัวร์ที่สายใต้ไปลงที่ชะอำและหัวหิน ก่อนที่ตำรวจจะติดตามไปเจอที่ห้องพัก และแจ้งว่า สามีกำลังตามหาอยู่ ตนจึงอยากจะขอโทษสื่อมวลชนและตำรวจที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายดังกล่าวที่เกิดขึ้น
นายพุภธิพงษ์ กล่าวว่า ตนเองก็เข้าใจภรรยาว่าเครียดกับงาน ประกอบกับช่วงนั่นก็ร้อนใจว่าภรรยาหายตัวไปพร้อมๆ กับลูกชาย ประกอบกับไม่ได้เช็กให้ละเอียด เงินในบัญชีก็หายไป เลยเข้าใจว่าแฟนสาวอาจถูกลักพาตัวจึงได้เดินทางมาแจ้งความดังกล่าว. – สำนักข่าวไทย