สำนักข่าวไทย 3 ต.ค.-ดีเดย์พรุ่งนี้ ฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป สธ. คาดไม่เกิน 3 สัปดาห์ ฉีดเข็มแรกให้เด็กครบ 5 ล้านคน ย้ำหลังรับวัคซีนต้องงดออกกำลังกาย หรือใช้แรง 1 สัปดาห์ ลดภาวะโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ดีเดย์พรุ่งนี้ ว่า ขณะนี้ทางกรมควบคุมโรคได้มีการกระจายวัคซีนลงไปในระดับอำเภอแล้ว โดยความพร้อมในการฉีดวัคซีน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของในแต่ละพื้นที่ ทั้งเรื่องของความสมัครใจในการรับ ที่ทางโรงเรียนต้องทำหนังสือออกแบบสอบถาม และความพร้อมของวัคซีนว่าไปถึงในพื้นที่แล้วหรือไม่ คาดว่าวัคซีนจะกระจายอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ และมีการฉีดวัคซีนในจำนวนมากประมาณกลางสัปดาห์ หรือราววันพุธที่ 6 ตุลาคมนี้ ซึ่ง 1 อำเภอ จะมีโรงเรียนประมาณ 3-5 แห่ง ทั่วประเทศมีประมาณ 1,000 อำเภอ และวัคซีนจะทยอยเข้ามาทุกวันพุธ โดยวันที่ 6 ตุลาคม มีวัคซีนโฟเซอร์ เข้ามา 1.5 ล้านโดส และวันที่ 13 ตุลาคม จะมีวัคซีนทยอยเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส รวม 5 ล้านโดส เชื่อว่าไม่เกินประมาณ 3 สัปดาห์ จะสามารถทยอยฉีดวัคซีนเข็มแรก ให้กับเด็กนักเรียนจนครบหมด
นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนการเฝ้าระวังและติดตามอาการของเด็กนักเรียนนั้น ได้เน้นย้ำให้มีการติดตามและให้คำแนะนำกับผู้ปกครองล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากการรับวัคซีนเป็นเรื่องของความสมัครใจ ไม่ใช่การบังคับ และวัคซีนที่นำมาฉีดให้กับเด็กนักเรียนนั้นก็ได้รับการรับรองจาก อย.แล้ว โดยเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงไม่อยากให้เกิดปัญหาหรือเรื่องดราม่าขึ้น โดยการติดตามเด็กที่ได้รับวัคซีน ได้กำชับว่าให้เฝ้าสังเกตอาการ เรื่องของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โดยหลังรับวัคซีนขอให้งดการออกกำลังกาย หรือใช้แรงหนักๆ 1 สัปดาห์ หากมีอาการแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ก็ขอให้รีบพบแพทย์ เชื่อว่าการรับวัคซีนในเด็กจำนวนมาก แน่นอนต้องเป็นธรรมดาที่อาจพบเด็กบางส่วนต้องนอน รพ. หรือมีอาการข้างเคียง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับในต่างประเทศ
นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนที่มีการเสนอให้เด็กหญิงรับวัคซีนไปตามปกติ 2 เข็ม ส่วนเด็กผู้ชายรับไปแค่ 1 เข็มเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบนั้น เป็นแค่แนวความคิดเห็นของนักวิชาการท่านหนึ่งเท่านั้น ตอนนี้การรับวัคซีนในเด็กยังคงทำตามปกติ ไม่ได้มีข้อห้ามหรือความแตกต่างระหว่างเด็กชายหรือเด็กหญิง แต่เนื่องจากระยะห่างระหว่างเข็ม 1 กับเข็ม 2 มีถึง 3-4 สัปดาห์ ดังนั้นยังมีเวลา หากมีข้อมูลหรือการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการ ก็สามารถดำเนินการได้ เพราะข้อมูลเกี่ยวกับโควิดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ในต่างประเทศการรับวัคซีนทั้งเด็กชายและหญิงนั้นก็ทำตามปกติ คือรับครบจำนวน 2 เข็ม.-สำนักข่าวไทย