กรมควบคุมโรค-ภาคีเครือข่าย ขยายความร่วมมือเข้าถึงวัคซีน

กรุงเทพฯ 12 พ.ย. – กรมควบคุมโรค ร่วมกับภาคีเครือข่าย ขยายความร่วมมือในการเข้าถึงวัคซีน ในโอกาสวันแห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก พร้อมเร่งฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก และวัคซีนป้องกันโรคติดต่อในเด็กเล็ก


กรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน แถลงข่าวเนื่องในวันแห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก (World Immunization Day 2023) เพื่อเร่งขับเคลื่อนแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ตั้งเป้าประชาชนในประเทศไทยได้รับวัคซีนอย่างครอบคลุมในทุกช่วงวัย เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เช่น วัคซีนพื้นฐานในเด็กเล็ก และวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพมหานคร นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมกับ นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน พญ.สุเนตร ชื่นกิจมงคล รองผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ Dr.Jos Vandelaer ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ศ.นพ.ภิรุญ มุตสิกพันธุ์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้แทนสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และ รศ.นพ.สุรสิทธิ์ ชัยทองวงศ์วัฒนา ผู้แทนราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวในหัวข้อ “วัคซีนกับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค หลังการระบาดของโควิด-19 สำคัญและจำเป็นแค่ไหนในทุกช่วงวัย” ในโอกาสวันแห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก (World Immunization Day 2023)


นพ.โสภณ กล่าวว่า นโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดโครงการ “ฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก 1 ล้านโดส ภายใน 100 วัน ให้กับผู้หญิงอายุ 11-20 ปี ตามนโยบายมะเร็งครบวงจร” ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่าสูงในการป้องกันการป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูกในระยะยาว โดยขณะนี้ทุกจังหวัดได้ระดมความร่วมมือดำเนินการฉีดวัคซีน HPV ให้เด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา และจะเริ่มฉีดผู้หญิงในวัยเดียวกันนอกสถานศึกษาในเดือนธันวาคมนี้

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 มีเด็กเล็กจำนวนหนึ่งไม่ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนด ส่งผลให้ปัจจุบันพบโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ ดังปรากฏจากรายงานพบผู้ป่วยเด็กเป็นโรคไอกรนและคอตีบเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่มีร้อยละความครอบคลุมของวัคซีนต่ำ เช่น จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วน รวมทั้งผู้ปกครองให้ความสำคัญนำเด็กมารับวัคซีนให้ครบถ้วน และเพื่อให้เด็กไทยได้รับวัคซีนที่จำเป็น ลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคติดต่อที่ป้องกันได้ ซึ่งเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่ามากที่สุดมาตรการหนึ่งในงานสาธารณสุข. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก