โซล 27 ก.ย. – ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ระบุวันนี้ว่า เกาหลีใต้อาจจำเป็นต้องมีกฎหมายห้ามกินเนื้อสุนัข ท่ามกลางการถกเถียงเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่เป็นประเด็นโต้แย้งและความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิทธิของสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้น
โฆษกหญิงของประธานาธิบดีมุนระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวหลังจากได้รับฟังข้อสรุปจากนายกรัฐมนตรีคิม บู-คยอม ของเกาหลีใต้ เกี่ยวกับความพยายามที่จะปรับปรุงการดูแลสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งและระบบบังคับลงทะเบียนสุนัขว่า ถึงเวลาแล้วที่เกาหลีใต้ต้องออกข้อกำหนดห้ามกินเนื้อสุนัข แถลงการณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีมุนเห็นด้วยกับคำสั่งห้าม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดแรงกระตุ้นครั้งใหม่ในการอภิปรายเกี่ยวกับข้อจำกัดของแนวทางดังกล่าว
ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้หลายรายได้ให้คำมั่นว่าจะออกกฎหมายห้ามกินเนื้อสุนัขในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อเรียกคะแนนนิยม โดยเฉพาะในขณะที่การเลี้ยงสุนัขในเกาหลีใต้กำลังได้รับความนิยมและกลุ่มผู้สนับสนุนได้เรียกร้องให้เกาหลีใต้สั่งปิดร้านอาหารและตลาดที่ขายเนื้อสุนัข นายลี แจ-มย็อง ผู้ว่าการจังหวัดคย็องกีที่มีประชากรมากที่สุดของเกาหลีใต้ และเป็นผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีระดับแนวหน้าของพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีของประธานาธิบดีมุน ได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันคำสั่งห้ามกินเนื้อสุนัขผ่านฉันทามติของสังคม ขณะที่นายยุน ซอก-ยูล คู่แข่งจากฝ่ายค้าน ระบุว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นทางเลือกส่วนตัวของประชาชน
ผลสำรวจความเห็นที่จัดทำขึ้นในเดือนนี้โดยอะแวร์ (Aware) กลุ่มพิทักษ์สวัสดิภาพสัตว์ ระบุว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 78 เห็นว่า ควรห้ามผลิตหรือจำหน่ายเนื้อสุนัขและแมว และมีร้อยละ 49 สนับสนุนคำสั่งห้ามกินเนื้อสุนัข แต่ผลสำรวจอีกชิ้นของเรียลมิเตอร์ (Realmeter) ชี้ว่าชาวเกาหลีใต้มีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับการออกกฎหมายห้ามกินเนื้อสุนัข แม้มีผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 59 สนับสนุนให้มีกฎหมายจำกัดการฆ่าสุนัขเพื่อรับประทาน แต่ผู้ขายเนื้อสุนัขกลับยืนกรานเกี่ยวกับสิทธิในการประกอบอาชีพดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย