ทำแผนคนร้ายลวงเหยื่อสาว 17 กระทำชำเรา

ชัยภูมิ 19 ก.ย.- ตำรวจคุมตัวคนร้ายข่มขืนสาววัย 17 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้าน โดยผู้ต้องหาถูกตั้ง 4 ข้อหาหนัก


เกิดเหตุคนร้ายชายหนุ่มวัยรุ่นก่อเหตุฉุดเหยื่อสาววัย 17 ปี ไปข่มขืนในป่ายูคาลิปตัสท้ายหมู่บ้านห้วยส้มป้อย ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ พร้อมชิงทรัพย์เงินสด 1,000 บาทและโทรศัพท์มือถือก่อนหลบหนี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะนักเรียนสาวเดินออกจากบ้านไปตามหายายผ่านบริเวณป่าไม้ยูคาลิปตัส มีชายหนุ่มวัยรุ่นแปลกหน้า ก่อเหตุใช้มีดปลายเหลมจี้ชิงทรัพย์แล้วฉุดเหยื่อไปข่มขืน หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์สีดำขาวไม่ทราบทะเบียนหลบหนีไปอย่างลอยนวล ซึ่งเหยื่อได้เข้าแจ้งความต่อ ร้อยเวน สภ.ซับใหญ่ ให้ออกไล่ล่าสืบหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี เพราะกลัวคนร้ายจะลอยนวลและไปก่อเหตุกับหญิงคนอื่นๆ ในละแวกเดียวกันอีก  จึงตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์ผ่านในโลกโซเชียล เพื่อตีแผ่เตือนภัยให้กับหญิงสาวและประชาชนได้รับรู้และระวังตัวจากชายคนร้ายรายดังกล่าว


จนกระทั่งเมื่อวานนี้ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์  จันทรกานตานนท์ ผู้กำกับการสภ.ซับใหญ่ พร้อมกำลังเจ้าหนาที่ตำรวจชุดสืบสวนได้จับกุมและควบคุมตัวนายนายทนุศักดิ์ คำพรม ผู้ต้องหา ได้ที่บ้านพักใน ต.หนองบัวระเหว อ.หนองบัวระเหว ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ซับใหญ่ นายทนุศักดิ์ถูกแจ้ง 4 ข้อหาหนัก คือ1.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น 2.พรากผู้เยาว์ 3.อนาจารผู้อื่น 4. หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น

ตำรวจติดตามตัวได้จากการแกะรอยกล้องวงจรปิด หลังสืบทราบว่า ชายลักษณะดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณถนนสายบ้านท่ากูบ-บ้านส้มป้อย อยู่เป็นประจำ และทราบต่อมาว่าชายคนดังกล่าวทำงานเป็นคนงานขับรถบรรทุกกากหัวมันสำปะหลัง โรงงานแป้งมันแห่งหนึ่ง  ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคล้ายกับคนร้ายไว้ได้ และได้ข้อมูลจากพลเมืองดี จึงสามารถรู้แหล่งที่อยู่ของคนร้าย จึงนำกำลังออกติดตามจับกุมตัวนายทนุศักดิ์ได้ที่บ้านพัก

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนหญิงนักเรียนรายดังกล่าว เป็นการสมยอม โดยผู้ต้องหาบอกว่าก่อนก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านนักเรียนสาวเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เห็นหน้าตาดี จึงแชทกันและพูดคุยกันอยู่หลายวัน ในวันเกิดเหตุจึงวางแผนขี่รถจักรยานยนต์ดักรอข้างทางกลางป่าเปลี่ยว และเห็นผู้เสียหายเดินเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างทางเพียงคนเดียว จึงออกอุบายเดินไปขอยืมโทรศัพท์และก่อนจะฉุดเข้าป่ายูคาลิปตัสแล้วข่มขืนก่อนหลบหนีไป


ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังกว่า 50 นายควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำสารภาพในจุดเกิดเหตุ ขณะที่มีชาวบ้านและญาติผู้เสียหายหลายสิบคนรอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยควบคุมสถานการณ์เพราะหวั่นจะเกิดเหตุการณ์ประชาทัณฑ์ขึ้น โดยชาวบ้านต่างสาปแช่งผู้ต้องหาและให้ลงโทษขั้นสูงสุด

จุดแรกที่ 1 บริเวณหน้าบ้านผู้เสียหาย จุดที่ 2 เป็นจุดที่นายทนุศักดิ์จอดรถจักรยานยนต์ดักซุ่มรอบริเวณริมถนนสายบ้านห้วยส้มป้อย-บ้านท่ากูบ จุดที่ 3 จุดที่นายทนุศักดิ์ยืนพูดคุย และจุดที่ 4 เป็นจุดที่นายทนุศักดิ์ลงมือข่มขืนในป่าไม้ยูคาลิปตัสข้างทาง.-สำนักข่าวไทย 17

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง