คุมตัว “อาผะ” ทำแผนชี้จุดคดีลักพาตัว “น้องจีน่า”

เชียงใหม่ 11 ก.ย.-คุมตัวอาผะหรือเสี่ยว ผู้ต้องหาอุ้มน้องจีน่าทำแผนชี้จุด ตามคำให้การ พบหลักฐานบางอย่าง แต่ต้องรอผลนิติวิทยาศาสตร์เชื่อมโยงผู้ร่วมขบวนการ

ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษภาค 5 และ ชุดสืบสวน สภ.แม่แตง คุมตัวนายอาผะ หรือเสี่ยว วัย 43 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักพาตัวน้องจีน่าไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หมู่บ้านห้วยฝักดาบ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่คุมตัวนายอาผะ ทำแผนหลายจุด จุดแรกชี้ยืนยันบ้านของตัวเองห่างจากบ้านของน้องจีน่าประมาณ 100 เมตร, จุดที่สองชี้ยืนยันหน้าบ้านของน้องจีน่า, จุดที่สามบนถนนห่างจากบ้านน้องจีน่าประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายอาผะพบตัวและอุ้มน้องจีน่าขึ้นจักรยานยนต์, จุดที่สี่ริมถนนห่างจากจุดอุ้มประมาณ 10 เมตร เป็นจุดที่อ้างว่าจอดรถจักรยานยนต์เพื่อใช้เสื้อยืดแขนยาวสีม่วงมัดสะพายตัวน้องจีน่าเพื่อขี่จักรยานยนต์นำตัวไปปล่อยทิ้ง, จุดที่ห้าบริเวณสระน้ำในป่าท้ายหมู่บ้าน ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นจุดที่อ้างว่านำน้องจีน่าไปปล่อยทิ้ง, จุดที่หกบริเวณหน้าถ้ำ ห่างจากสระน้ำประมาณ 500 เมตร เป็นจุดที่นายอาผะอ้างว่านำเด็กไปทิ้งอีกจุดหนึ่ง และจุดที่เจ็ดบนถนนใกล้กับไร่ข้าวโพดห่างบ้านน้องจีน่า ประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่อ้างว่านำน้องจีน่ามาส่งให้กับคนสองคนที่มารอรับตัวเด็ก


นอกจากนี้ ยังนำตัวไปทำแผนรวมแล้วนับสิบจุด รวมทั้งที่บ้านยายของน้องจีน่าตามที่นายอาผะให้การซัดทอดพี่สาวของยายด้วย เนื่องจากนายอาผะให้การไม่ตรงกันถึง 3 ครั้ง และซัดทอดถึงหลายบุคคล ทำให้ต้องทำแผนให้ครอบคลุมตามที่นายอาผะให้การทั้งหมด มีทั้งบอกว่าอุ้มน้องจีน่าไปวางไว้หน้าปากถ้ำเพื่อเซ่นเจ้าป่าเจ้าเขาตามความเชื่อ, มีคนสั่งให้อุ้มตัวน้องไปให้กับคนที่มารอรับในหมู่บ้าน และล่าสุดอ้างว่าลักพาตัวน้องไปให้กับบุคคลคนหนึ่งในหมู่บ้าน ซึ่งคำให้การที่ต่างกันทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจทำแผนไปตามจุดที่มีการให้การทั้งหมดเพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน

ขณะเดียวกันในช่วงเวลาการทำแผนเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย เดินค้นหาเสื้อยืดแขนยาวสีม่วงที่นายอาผะอ้างว่าใช้ผูกตัวอุ้มน้องจีน่าขี่จักรยานยนต์ บริเวณชายป่าใกล้หมู่บ้านสุดท้ายพบเสื้อตัวดังกล่าวอยู่บริเวณเสาธงหน้าโรงเรียนในหมู่บ้าน


การทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ มีชาวบ้านนับร้อยคนมาดูเหตุการณ์ ส่วนใหญ่บอกว่าโล่งใจที่จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ทำให้คนในหมู่บ้านรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น แม้คดีจะเดินมาถึงการแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์และกักขังหน่วงเหนี่ยว และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ทีมสืบสวนยังคงเดินหน้าหาเบาะแสและข้อมูลหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงไปถึงบุคคลต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ พร้อมกับรอผลการตรวจดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงจากหลักฐานที่เก็บไปจากบ้านของนางนาคะ ยายของน้องจีน่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งกางเกงเด็กสีน้ำตาล ผ้าห่ม ที่นอน กล่องนม ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยบ้านหลังนี้มีนางนาคะ ยายน้องจีน่า นางนาคาจู พี่สาวของนางนาคะ และนายจะบูสือ จะลอ ลุงของน้องจีน่า พักอาศัยอยู่ก่อนที่น้องจีน่าจะถูกลักพาตัว โดยคาดว่าจะทราบผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์อย่างเร็วที่สุดในอีก 2-3 วันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง