พีระศักดิ์ ย้ำกรอบเวลาฟังความเห็นปรองดองต้องเสร็จภายใน 3 เดือน

S__24436869สวนสนประดิพัทธ์ 12 ก.พ.- นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) กล่าวถึงการดำเนินการของคณะกรรมการว่า จะเริ่มเชิญพรรคการเมืองมาให้ความเห็นตามที่กำหนดหัวข้อไว้ทั้งหมด 11 ข้อ โดยเรียงลำดับการเชิญตามตัวอักษรของชื่อพรรคการเมือง และจะไม่ให้แต่ละพรรคการเมืองมาเจอกัน รวมถึงจะดำเนินการรับฟังความเห็นในคำถามชุดเดียวกันในระดับภูมิภาคต่างๆ ด้วยความร่วมมือของแม่ทัพภาค ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจระดับภาคและระดับจังหวัด ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินการ โดยคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งมีปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธานอนุกรรมการฯ จากนั้น จะนำข้อมูลทั้งหมดมาเข้าสู่การพิจาณาโดยคณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง และเข้าสู่ขั้นตอนของคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์โดย คณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง แล้วจะสรุปผลทั้งหมดภายใน 3 เดือน ให้กับที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการ ป.ย.ป. แต่หากไม่แล้วเสร็จในกรอบเวลาก็ต้องยืดออกไปอีก


ส่วนการหาข้อตกลงร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองและกลุ่มการเมือง นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องผ่านขั้นตอนการรับฟังความเห็นทุกพรรคการเมืองซึ่งรวมถึงพรรคเล็กด้วย แล้วจึงมีขั้นตอนการหารือร่วมกันในขั้นตอนหลังจากนั้น

นายพีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า บทบาทหน้าที่ของ สนช.ในการสร้างความปรองดองนั้นตนเองได้เข้าไปในฐานะเสนอความเห็นในระดับนโยบาย ตามที่มีการกำหนดโครงสร้างให้มีรองประธาน สนช. อยู่ด้วย ประธานสนช. จึงมอบหมายให้มาทำงานด้านนี้ ขณะที่สนช.คนอื่นๆจะเข้าไปช่วยงานในคณะอนุกรรมการด้านอื่นๆ ด้วย ส่วนการดำเนินการสร้างความปรองดองของ สนช. ที่เคยดำเนินการศึกษาโดยคณะกรรมาธิการด้านการเมือง เกี่ยวกับร่างกฎหมายอำนวยความยุติธรรมทางอาญาเกี่ยวเนื่องกับมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ขณะนี้ยังเป็นเพียงหลักการ ยังไม่ได้มีการจัดทำร่างกฎหมายหรือสรุปข้อเสนอแนะ ซึ่งจะมีการศึกษาคู่ขนานไปกับการทำงานของคณะกรรมการ ป.ย.ป..-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง