วัดราชบพิธ 13 ก.พ.-นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) เตรียมเชิญพรรคการเมือง เข้าร่วมพูดคุยโดยจะเริ่ม ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเชิญ และยินดีเข้าร่วม พบปะหารือในวันศุกร์ที่ 17 ก.พ. นี้ และพรรคอยู่ระหว่างคัดเลือกบุคคลเข้าร่วม โดยจะเปิดเผยรายละเอียดต่างๆในวันพรุ่งนี้(14ก.พ.)
ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าขณะนี้ทางหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กำลังพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมเพื่อเข้าร่วมในการแสดงความคิดเห็นครั้งนี้ หากมีความชัดเจน คณะพูดคุยของพรรคประชาธิปัตย์ จะหารือรายละอียด 10 หัวข้อที่จะมีการพูดคุยและแจกแจงประเด็น แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนมา คาดว่าไม่เกินวันที่ 15 ก.พ.จะมีความชัดเจน ซึ่งการที่พรรคประชาธิปัตย์ยินดีเข้าร่วมเพราะไม่อยากมองเป็นตัวปัญหา ทำให้ประเทศชาติไม่เกิดความปรองดอง พร้อมยังเชื่อว่าความคิดเห็นของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นประโยชน์ต่อคณะกรรมการในการนำไปบูรณาการข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง
“เราอยากเห็นก้าวแรกของการเปิดเวทีเพื่อความสามัคคีปรองดองครั้งนี้เป็นเวทีที่ทุกฝ่ายเปิดใจแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์บนพื้นฐานของความจริงใจต่อประเทศชาติบ้านเมืองโดยรวม เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าร่วมกันในส่วนของคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองแม้จะแต่งตั้งโดย คสช. ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือก็ต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่า อำนาจที่เบ็ดเสร็จจะไม่ช่วยทำให้เกิดการปรองดองที่เบ็ดเสร็จได้ มีแต่การเปิดโอกาสให้ประชาชนและทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริงก็จะช่วยทำให้การปรองดองมีความเป็นไปได้มากขึ้น”นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่าเพื่อให้การทำงานเพื่อความสามัคคีปรองดองเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่นนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการคณะกรรมการควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ คือเปิดใจกว้างรับฟังข้อมูลรอบด้าน เพื่อนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการแสวงหาทางออกเพื่อนำไปสู่การปรองดอง ไม่มีการแสดงออกใดๆ ที่บ่งบอกว่ามีธงไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าประสงค์จะใช้วิธีการปรองดองแบบไหน ต้องแสดงออกถึงความเป็นกลางในการรับฟังข้อมูลความคิดเห็นต่างๆ อย่างชัดเจน เปิดเวทีให้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นและสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมตัดสินใจในกระบวนการของการปรองดอง และแสดงออกถึงความตั้งใจในการทำงานให้เกิดผลอย่างแท้จริง เพื่อให้ทุกภาคส่วนเต็มใจ และมั่นใจที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย