ฮานอย 5 ก.ย.- สื่อเวียดนามระบุว่า สหภาพยุโรป หรืออียู (EU) บริจาควัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวนมากให้แก่เวียดนาม เพราะเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอียูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และต้องการมีอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
เว็บไซต์เวียดนาม เอ็กซ์เพรส รายงานว่า อิตาลีและโรมาเนียเป็นสมาชิกอียูรายล่าสุดที่บริจาควัคซีนให้แก่เวียดนาม เมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมกับอ้างดอยเชอ เวลเลอ (DW) สื่อของเยอรมนี ที่ประมาณการว่า จนถึงขณะนี้สมาชิกอียูบริจาคหรือรับปากจะบริจาควัคซีนให้เวียดนามรวมกันแล้ว 2.6 ล้านโดส ไม่นับรวมวัคซีนจำนวนมากที่เวียดนามได้รับผ่านโครงการโคแวกซ์ ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุน 1 ใน 3 จากอียู
เวียดนาม เอ็กซ์เพรส ระบุว่า นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า แรงจูงใจของอียูมาจากผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ต้องการเห็นเวียดนามฟื้นตัวให้เร็วที่สุด เนื่องจากเวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 15 ของอียู และเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ (FTA) อียู-เวียดนาม มีผลบังคับใช้เมื่อกลางปี 2563 เป็นเอฟทีเอ ฉบับที่ 2 ของอียูในภูมิภาคนี้ ต่อจากสิงคโปร์ นอกจากนี้ เวียดนามยังเป็นประเทศหนึ่งที่มีบทบาททางภูมิรัฐศาสตร์ในอินโด-แปซิฟิก การเป็นมิตรกับเวียดนามจึงตอบสนองความต้องการของอียูที่จะสร้างอิทธิพลในภูมิภาคนี้
ศ.กิตติคุณ คาร์ล เธเยอร์ มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ในออสเตรเลีย มองว่า สมาชิกอียูมีแรงจูงใจแตกต่างกันในการบริจาควัคซีนให้เวียดนาม โดยมีทั้งผลประโยชน์แห่งชาติและความเอื้อเฟื้อ ขณะที่ เล ห่องเฮียบ นักวิชาการโครงการเวียดนามศึกษา สถาบันไอเอสอีเอเอส-ยูซอฟอิชัค ในสิงคโปร์ ชี้ว่า เจ้าหน้าที่เวียดนามทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงคนระดับผู้นำ มีความกระตือรือร้นอย่างมากในการขอให้ต่างประเทศช่วยเหลือและแบ่งปันวัคซีน ส่วน เฮือง เลธู นักวิเคราะห์ของสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย ระบุว่า เป็นการตอบแทนที่เวียดนามเคยบริจาคชุดป้องกันส่วนบุคคล หรือ พีพีอี (PPE) และหน้ากากอนามัยจำนวนมากให้แก่ยุโรป ในช่วงที่สถานการณ์การระบาดรุนแรงเมื่อปีก่อน โดยมีชุมชนชาวเวียดนามในยุโรปเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการระดมทุนและสิ่งของบริจาคในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย