กรุงเทพฯ 27 ส.ค.-เอกชนระบุมาตรการผ่อนคลายเปิดธุรกิจเริ่ม 1 ก.ย.นี้ ทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้ ย้ำต้องใช้ Digital Health Pass ช่วยควบคุมการเปิดธุรกิจ วอนทุกฝ่ายต้องช่วยดูแลเพื่อให้อีกหลายธุรกิจเปิด มั่นใจหากแผนวัคซีนมามากฉีดได้เยอะโอกาสเปิดเมืองเพิ่มเติมเป็นไปได้สูงแถมดันให้จีดีพีไทยปีนี้ไม่ติดลบ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่า จากมาตรการผ่อนปรม ศบค.ชุดใหญ่ที่ออกมาผ่อนคลายให้บางธุรกิจเปิดกิจการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป ถือว่าจะทำให้ภาคธุรกิจการค้าการขายกลับมาดีขึ้นได้ในช่วงเวลาที่เหลือปีนี้ แต่ทุกอย่างจะต้องช่วยกันดูแลป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อโควิดเพิ่มเติมกลับมาได้อีก โดยหอการค้าไทย และคณะทำงานกลุ่มมาตรการสำหรับการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ (Business Resume) ภายใต้คณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้มีข้อเสนอเปิดเมืองปลอดภัย เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยต้องดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้ปลอดภัย และควบคุมการระบาดของโรคให้อยู่ในระดับที่ความสามารถทางสาธารณสุขรองรับได้
อย่างไรก็ตาม เอกชนเห็นตรงกันการผ่อนคลายให้กิจการและธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการ ควรพิจารณาจากความพร้อมของพื้นที่และลักษณะของกิจการ โดยต้องประเมินและจัดลำดับความเสี่ยงของกิจกรรม เอกชนพร้อมที่จะเข้าไปจัดทำมาตรฐาน กระบวนการป้องกัน และกระบวนการรักษาความสะอาด เพื่อให้เป็นมาตรฐานที่ยอมรับได้ รวมทั้งให้ธุรกิจเดินหน้าได้ โดยใช้ Digital Health Pass มาช่วยดำเนินการควบคุมการเปิดดำเนินการและการใช้บริการ
ทั้งนี้ ระบบ Digital Health Pass เพื่อตรวจสอบประวัติการได้รับวัคซีน หรือผลการทดสอบ Rapid Test ของประชาชน ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ โดยเชื่อมข้อมูลกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยืนยันและคัดแยกว่าประชาชนไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อ เชื่อมโยงข้อมูลกับระบบที่มีอยู่ โดยระบบจะตรวจสอบข้อมูลจาก Centralized Portal ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. ผู้ออกเอกสารรับรอง (Issuers) เป็นข้อมูลจากส่วนกลางที่ระบุข้อมูล ทั้งข้อมูลการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจ ATK ที่จะเชื่อมโยงกับระบบปัจจุบันที่มีอยู่ได้ ซึ่งฐานข้อมูลสามารถแยกกันเก็บได้
2. ผู้ตรวจสอบคุณสมบัติในการเข้าสถานที (Verifiers) เจ้าของสถานประกอบการที่เป็นคนตรวจสอบก่อนให้เข้ามาในสถานประกอบการ โดยต้องกำหนดมาตรการและเงื่อนไขการเข้าสถานที่ เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ โดยภาครัฐควรออกแนวปฏิบัติที่ชัดแจนออกมา
3. ประชาชนหรือบุคคลที่ขอเข้ารับบริการจากสถานที่ (Individual) ข้อมูลของแต่ละคน ที่จะต้องนำระบบ SMART PHONE หรือ QR CODE ซึ่งสามารถสั่งพิมพ์ออกมาได้ และเชื่อมข้อมูลไปยัง Issuers ว่าเป็นบุคคลนั้น ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเฉพาะว่า “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” เท่านั้นเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ทุกมาตรการที่ภาครัฐออกมาโดยภาคเอกชนจะต้องร่วมมือกันเพื่อให้ทุกแนวทางเดินหน้าและป้องกันการแพร่เชื้อ แม้ว่าโควิดยังจะอยู่ไปอีกนาน ดังนั้น ทุกแนวทางจะต้องทำเป็นแบบแผนและต่อเนื่องเพื่อให้ภาครัฐผ่อนคลายในกิจการอื่นที่ยังไม่ได้เปิดในรอบนี้ได้โดยเร็ว เพราะหากตามแผนงานของรัฐบาลประกาศไว้ในช่วงที่เหลือปีนี้จะมีวัคซีนเข้ามาฉีดให้กับประชาชนอีกจำนวนมาก จึงเชื่อว่าเมื่อคนไทยทั้งประเทศมีภูมิป้องกันโควิดได้ โอกาสการเปิดเมืองและอีกหลายกิจการเพิ่มเติมจะเป็นสูง จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาดีขึ้นและมองว่าจีดีพีไทยจะไม่ติดลบน่าจะเป็นบวกแต่จะแค่ไหนขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายจะร่วมมือกัน และภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือแม้จะให้บางธุรกิจเปิดดำเนินการแต่อยู่ภายใต้จะต้องตรวจเชื้อทุกสัปดาห์โดยผ่านชุดตรวจ ATK นั้น เห็นว่าตรงนี้เป็นต้นทุนของเอกชนจึงอยากให้ภาครัฐจัดหาชุดตรวจในราคาถูกหรือให้นำค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปหักลดหย่อนภาษีได้.-สำนักข่าวไทย