ชลบุรี 23 พ.ย.- “สนั่น” ชูแนวคิดขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แก้หนี้ SMEs-Digital transformation – หวังดันจีดีพีแตะ 5% แนะไทยใช้โอกาส “นโยบายทรัมป์ 2.0” วางตัวเป็นกลาง ขยายการลงทุนกับอินเดีย
หอการค้าไทย จัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 42 ที่จังหวัดชลบุรี ภายใต้แนวคิด “CONNECT FOR GROWTH: INNOVATING FOR OUR SUSTAINABLE FUTURE : สร้างไทยให้เติบโต สู่อนาคตที่ยั่งยืน”
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์เปิดการสัมมนาในหัวข้อ “สร้างไทยให้เติบ สู่อนาคตที่ยั่งยืน” โดยระบุว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและ Geopolitical ปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมส์ ชนะการเลือกตั้ง เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่มีโอกาสเกิดสงครามการค้า ไทยควรใช้โอกาสสนี้วางตัวเป็นกลาง ขยายการค้าการลงทุนกับประเทศอินเดีย ที่จะเชื่อมภูมิภาค South East Asia เชื่อมผลประโยชน์จากจีน และ USA
การแก้ปัญหาหนี้ประชาชนและ SMEs ต้องใช้นโยบายการเงิน การคลัง ควบคู่กัน พร้อมกับการกระจายรายได้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งหอการค้าไทยได้เสนอแนวทางหลายประการ เช่น การพักและยืดการชำระหนี้ ทั้ง บ้าน รถ และ SMEs โดยเฉพาะไม่ยึดรถกระบะที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินของประชาชน การลดดอกเบี้ย และการปลดล็อกการเข้าถึงสินเชื่อ
นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาเรื่อง Digital transformation โดยเฉพาะการนำ Ai มาใช้ในภาคธุรกิจ ซึ่งส่วนนี้ไทยยังมีคนที่เก่งด้านเทคโนโลยีไม่เพียงพอ วันนี้ต้องรัฐต้องเร่งปรับตัวให้เร็วที่สุด กระทรวง DE + กระทรวง อว. เชื่อมการทำงานกันอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะที่ไทยมีโอกาสในการเป็น ศูนย์กลางทางการศึกษา (Education Hub) ส่วนนี้ประเทศไทยสามารถต่อยอดจากการเป็น Tourism Hub ได้ เพราะไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่จะช่วยให้เกิดการเดินทางมาพักอาศัยระยะยาวในประเทศไทย การดึงสถาบันการศึกษาชั้นนำมาอยู่ที่ประเทศไทย และสร้างโอกาสให้คนเก่งทำงานและถ่ายทอดความรู้ โดยเฉพาะด้านที่ประเทศไทยยังขาดความเชี่ยวชาญ เช่นเดียวกับที่หอการค้าพยายามสร้าง UTCC และ Harbour Space ให้ผลิตคนรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์โลกแห่งเทคโนโลยี AI สร้าง Start up ไทยให้เกิดมากขึ้น รวมถึงปรับปรุงกฎหมายเพื่อดึงดูดนักลงทุนและสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยระยะยาว ให้มีสิทธิ์ในการถือครองที่ดินหรืออำนวยความสะดวกในการต่อวีซ่า ก็จะเป็นประโยชน์ของประเทศไทยได้ในอนาคต ขณะเดียวกันประเด็นเรื่องค่าแรง หากสามารถใช้ Pay by skills จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้แรงงานของเราเกิดความตื่นตัวและพัฒนาทักษะใหม่ๆ
ที่ผ่านมาหอการค้าฯ ได้รับระดมความเห็นจากเครือข่ายเอกชนทั่วประเทศ เสนอต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ เร่งใช้งบประมาณปี 68 ให้เป็นไปตามแผน กระตุ้นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งใช้จ่ายงบประมาณที่มีอยู่ ประเด็นถัดมา ต้องช่วยให้สินค้าไทยแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ และการวางยุทธศาสตร์ประเทศเพื่อการเติบโตในอนาคต รักษาโมเมนตั้มในภาคธุรกิจที่ไทยยังแข่งขันได้ดี ด้านอาหาร ท่องเที่ยว และ Wellness ซึ่งรัฐบาลตอบรับอย่างดี หอการค้าฯ เชื่อมั่น GDP ไทยปีหน้า จะเติบโตได้ตามที่หลายสำนักคาดไว้ไม่ต่ำกว่า 3 และ ในอนาคตหากเรามีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจขนานใหญ่ โดยเฉพาะการแก้หนี้ และ กระจายรายได้อย่างทั่วถึง ส่งออกสินค้าที่โลกต้องการ สร้างคนเก่งให้ทันทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาสังคม และต่างประเทศมีโอกาสที่ GDP จะกลับมาเติบโตเต็มศักยภาพได้ถึง 5%.-516-สำนักข่าวไทย