ผู้ว่าแบงก์ชาติ กังวลเศรษฐกิจไทย “จ่อปากเหว” คาดจุดต่ำสุดหลัง Q4

กรุงเทพฯ 9 พ.ค.-ผู้ว่าฯ ธปท. กังวลเศรษฐกิจไทย “จ่อปากเหว” คาดเห็นจุดต่ำสุดหลังไตรมาส 4/68 พร้อมลดดอกเบี้ยเพิ่มหากสถานการณ์เปลี่ยน ดูแลเงินบาทไม่ให้ผันผวนเร็วเกินไป เตือนผลเจรจาสหรัฐกระทบยาวนาน แนะเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ หนุนฟื้นตัวหลังจบสงครามภาษี-คุมเข้มสินค้าทะลักเข้าไทย-ทบทวนแจกเงินหมื่น

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดกิจกรรม “ผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press) ครั้งที่ 1/68” โดยกล่าวถึงผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐสร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจสูงมาก และยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ ธปท. คาดการณ์ฉากทัศน์ 2 ด้าน ประกอบด้วย ระยะเวลาของผลกระทบจะเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะขึ้นอยู่กับการเจรจาไทย-สหรัฐ ว่าจะมีผลออกมาอย่างไร แต่เชื่อว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นในระยะยาวกินเวลานาน แต่จะไม่หนักเท่ากับช่วงโควิด-19 และช่วงวิกฤติปี 40 เชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถผ่านสถานการณ์การตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐไปได้


โดยขณะนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของการลงทุน แต่คาดว่าจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจก่อนที่จะฟื้นตัวจะเกิดขึ้นหลังไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และหากไม่มีการปรับตัวเศรษฐกิจที่ฟื้นขึ้นมาก็จะต่ำกว่าระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนผลกระทบจะหนักแค่ไหน ขึ้นอยู่กับผลของการเจรจา

ธปท. มองว่ากลุ่มที่จะได้ผลกระทบหนักที่สุดในครั้งนี้ คือกลุ่มผู้ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ อาหารแปรรูป เครื่องจักร กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และในกลุ่มซัพพลายเชนของกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ โดยมองว่า กลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ กลุ่มสินค้าที่จะได้รับผลกระทบจากสินค้าต่างประเทศทะลักเข้ามาในประเทศไทย


ทั้งนี้ ไทยควรจริงจังที่จะใช้มาตรการทางการค้า เพื่อป้องกันการทะลักเข้ามาของสินค้าต่างประเทศ ที่ไม่สามารถส่งไปสหรัฐได้ เพราะการทะลักเข้ามาจะกระทบกับธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีความเสี่ยงว่าจะไม่สามารถปรับตัวได้ทัน โดยมาตรการทางการค้าที่ควรใช้ เช่น มาตรการการตอบโต้การทุ่มตลาด และการตรวจสอบมาตรฐานของสินค้าอย่างเข้มงวด

ดร.เศรษฐพุฒิ ระบุว่าสิ่งที่ ธปท. ได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา คือ การดำเนินโยบายการเงินที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายทั้ง 2 ครั้งในปีนี้ เพื่อรองรับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยมองว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันถือเป็นระดับที่เหมาะสมกับผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้ประชุมในครั้งก่อนก็พร้อมจะลดดอกเบี้ยเพิ่ม ซึ่งการลดดอกเบี้ยต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพราะอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหลืออยู่มีอยู่อย่างจำกัด

นอกจากนี้ ธปท. ได้ดูแลตลาดการเงิน ไม่ให้ผันผวนเร็วเกินไป โดยได้เข้าไปดูแลการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไม่ให้เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่ได้มีการกำหนดค่าเงินบาทที่เหมาะสมในใจ โดยจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และเน้นดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนเร็วเกินไป จนภาคธุรกิจปรับตัวไม่ได้ ยอมรับว่า ช่วงที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นจาก 2 ปัจจัย คือ ดอลล่าร์อ่อนค่า และราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น


นอกจากนี้ ธปท. ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยดูแลลูกหนี้ โดยการออกมาตรการ “คุณสู้เราช่วย ” ซึ่งเริ่มมีลูกหนี้เข้ามาร่วมโครงการมากขึ้น พร้อมปฏิเสธว่า การที่ธนาคารพาณิชย์ไม่ปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้เกิดจากเกณฑ์ของแบงค์ชาติในเรื่องการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรม (RL) เป็นเพียงข้ออ้างของธนาคารพาณิชย์เท่านั้น และปัจจัยหลักที่จะทำให้ลูกค้าได้รับสินเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงทางด้านเครดิตของลูกค้ามากกว่า

ส่วนมาตรการเพื่อรองรับและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น รัฐบาลควรออกเป็นมาตรการที่เฉพาะเจาะจง เฉพาะภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ เช่น การจัดสินเชื่อผ่อนปรน หรือ ซอฟต์โลน ควรจะเน้นเฉพาะภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้ให้เป็นการทั่วไปเหมือนช่วงโควิด-19

สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ผู้ว่าฯ ธปท. มองว่า ควรทบทวนการเดินหน้าโครงการในเฟสที่เหลือ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยน และมีความท้าทายใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้า และภาษี โดยรัฐบาลควรเน้นการลงทุน และปรับโครงสร้างของประเทศ เช่น ปรับหลักเกณฑ์การทำธุรกิจให้ง่ายต่อการลงทุน

“การกระตุ้นการบริโภคจะต้องพิจารณาว่า จะช่วยเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน อีกทั้งความกังวลเรื่องของสินค้าที่จะทะลักเข้าไทย หากมีการกระตุ้นการบริโภค อาจจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอื่นๆแทน” ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว

ส่วนการตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ผู้ว่าฯ ธปท.มองว่า ยังไม่เห็นประโยชน์ที่ชัดเจน เนื่องจากขณะนี้โลกมีความไม่แน่นอนสูงซึ่งควรให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจที่ขาวสะอาด มากกว่าที่จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับธุรกิจสีเทา ควรจะหันไปส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวจากการตั้งศูนย์กลางเพื่อสุขภาพ เช่น Wellness Center ที่ไทยมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว.-516.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย