ทำเนียบ 20 ส.ค. – ศบค.ให้นโยบายกทม. ฉีดวัคซีนไขว้ “ซิโนแวค-แอสตราเซเนกา” ชี้ภูมิคุ้มกันขึ้น 78.65 % ป้องกันสายพันธุ์เดลตาได้
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่า จากการศึกษาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และศิริราชพยาบาลในการฉีดวัคซีนเข็ม 3 แบบวัคซีนไขว้หรือวัคซีนผสมต่อการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ทั้งนี้จากผู้เข้าร่วมการศึกษา 125 ราย แบ่งเป็น กลุ่มที่ได้รับวัคซีน กลุ่มที่ 1 ซิโนแวค 2 เข็ม พบค่าภูมิคุ้มกันที่ได้ 24.31 เปอร์เซ็นต์ กลุ่ม 2 แอสตราเซเนกา 2 เข็ม พบค่าภูมิคุ้มกันที่ได้ 76.52 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มที่ 3 ซิโนแวคเข็มที่ 1 แอสตราเซเนกาเข็ม 2 พบค่าภูมิคุ้มกันที่ได้ 78.65 และกลุ่มที่ 4 ของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฉีดซิโนแวค 2 เข็มและกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยแอสตราเซเนกา ค่าภูมิคุ้มกันขึ้นไปที่ 271.7 เปอร์เซ็นต์
“สาธารณสุขเน้นย้ำนโยบายให้มีการฉีดวัคซีนไขว้หรือวัคซีนสลับ ด้วยการฉีดซิโนแวคเข็มที่ 1 แอสตราเซเนกาเข็ม 2 ซึ่งในที่ประชุม ศปก.ศบค. กรุงเทพฯ รับนโยบายการฉีดวัคซีนไขว้นี้ไปปฏิบัติ และการศึกษาพบว่าการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการใช้วัคซีนไขว้ จากการใช้วัคซีนซิโนแวคและแอสตราเซเนกา พบว่าได้ผลดี ซึ่งระยะเวลาระหว่างเข็ม 1 และเข็ม 2 เพียง 3 สัปดาห์ ทำให้มีความเหมาะสมกับบริบทการติดเชื้อในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตาที่ขยายวงกว้างทั้งประเทศในตอนนี้”พญ.อภิสมัย กล่าวว่า.-สำนักข่าวไทย.