โซล 5 ส.ค. – ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ระบุวันนี้ว่า เขาวางแผนใช้เงินลงทุนราว 2.2 ล้านล้านวอน (63,800 ล้านบาท) เพื่อทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นหนึ่งในห้าประเทศที่มีฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหญ่ที่สุดของโลกภายในปี 2568
ประธานาธิบดีมุนกล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการภาครัฐและภาคเอกชนที่เพิ่งจัดขึ้นเพื่อหาทางเพิ่มการผลิตวัคซีนท่ามกลางปัญหาขาดแคลนวัคซีนและการส่งมอบวัคซีนล่าช้าว่า เขาจะกำหนดให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นหนึ่งในสามเทคโนโลยีเชิงยุทธศาสตร์ระดับชาติของเกาหลีใต้ร่วมกับสารกึ่งตัวนำ หรือเซมิคอนดักเตอร์ และแบตเตอรี เพื่อยกระดับการลงทุน การลดหย่อนภาษี และแรงจูงใจอื่น ๆ ในการช่วยให้บริษัทนำวัตถุดิบ ชิ้นส่วน หรือเครื่องมือในประเทศมาใช้ ทั้งยังระบุว่า ทุกฝ่ายจะมีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในห้าผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รายใหญ่ของโลกภายในปี 2568 ด้วยเงินลงทุน 2.2 ล้านล้านวอนตลอด 5 ปีข้างหน้า เขากำลังหาทางขยายความร่วมมือระหว่างประเทศด้วยการสร้างพันธมิตรด้านวัคซีนกับเยอรมนี อังกฤษ และประเทศอื่น ๆ รวมถึงการอนุญาตให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนในเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีมุนและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐยังได้ตกลงที่จะจับมือเป็นพันธมิตรที่ผสานความเชี่ยวชาญด้านวัคซีนของสหรัฐเข้ากับกำลังการผลิตของเกาหลีใต้ในการประชุมสุดยอดผู้นำเมื่อเดือนพฤษภาคม
ในขณะเดียวกัน สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี หรือเคดีซีเอ รายงานวันนี้ว่า เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้แก่ประชาชนร้อยละ 39 และฉีดวัคซีนครบสองโดสได้ร้อยละ 14 จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านคนนับถึงวันพุธ ถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง เช่น อังกฤษและสิงคโปร์ที่ฉีดวัคซีนโดสแรกได้มากกว่าร้อยละ 70 ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,776 คน ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 205,700 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,100 คน.-สำนักข่าวไทย