สธ. 30 ก.ค.-อธิบดีกรมควบคุมโรค แจงการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ SA ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดขึ้นเร็วและสูงขึ้น พร้อมเผยสัปดาห์หน้า ทีมแพทย์ในภูมิภาคเข้ามาเป็นทัพเสริม ช่วยค้นหาคัดกรองผู้ป่วยใน กทม. และฉีดวัคซีนให้
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการกระจายวัคซีนในเดือนสิงหาคม ว่า การกระจายวัคซีนและการฉีดวัคซีนจากนี้จะใช้สูตรใหม่ SA (ซิโนแวค และ แอสตราเซเนกา) ซึ่งข้อดีของสูตร SA จากการวิจัยที่มีการเผยแพร่ข้อมูลโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และไบโอเทค พบว่า ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นได้ค่อนข้างเร็วและภูมิคุ้มกันสูงขึ้นมาก โดยใช้สูตร SA คือ ซิโนแวคเข็มแรก จากนั้นห่างไป 3 สัปดาห์ ฉีดเข็ม 2 ด้วยแอสตราฯ พบว่า ค่าภูมิคุ้มกันใกล้เคียงสูตรแอสตราฯ 2 เข็ม ที่ต้องฉีดเว้นห่าง 12 สัปดาห์ ส่วนผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ไม่ต่างจากเดิม ส่วนรายที่ฉีดวัคซีนสูตรผสมแล้วเสียชีวิต จากการพิสูจน์ศพพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ทั้งนี้ การกระจายในเดือน ส.ค. จะกระจายลงต่างจังหวัดมากขึ้น หลังจาก มิ.ย. และ ก.ค. กระจายใน กทม. และปริมณฑล ค่อนข้างมาก เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาด โดยจะเน้นการฉีดในผู้สูงอายุ 60 ปี, 7 โรคเรื้อรัง, หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ อสม.เป็นหลัก จากนั้นส่วนหนึ่งจะใช้ควบคุมการระบาดในพื้นที่ และฉีดเป้าหมายพิเศษ พื้นที่ท่องเที่ยว พังงา กระบี่ เป็นต้น
นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันที่ 4-10 ส.ค.นี้ จะมีบุคลากรสาธารณสุขในภูมิภาค ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความอดทน และมีประสบการณ์ในการทำงานในพื้นที่ยากลำบาก เข้ามาร่วมทีม CCRT ราว 500 คน เพื่อทำงานเชิงรุกในพื้นที่ กทม. ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. 69 แห่ง โดยร่วมทำการคัดกรอง ฉีดวัคซีน โดยทีมที่เข้ามาร่วมมือปปฏิบัติงานจะช่วยประมาณ 6-7 วัน และสับเปลี่ยนทีม ตั้งเป้าว่าจะสามารถปฏิบัติการตรวจคัดกรองเชิงรุกได้กว่า 4-5 แสนราย และแยกผู้ป่วยได้
อย่างน้อย 7-8 หมื่นราย จะทำให้ผู้ป่วยที่อาการเปลี่ยนแปลงเป็นสีเหลือง หรือสีแดง ได้รับยาครบถ้วน ขณะเดียวกัน ยังมาช่วยเสริมทีมฉีดวัคซีนให้ด้วย.-สำนักข่าวไทย