กรุงเทพฯ 21 ก.ค.-สำนักระบาดวิทยา คาดการณ์หลังยกระดับความเข้มข้นมาตรการล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 13 จังหวัด อย่างจริงจัง ตามมติ ศบค. เพื่อลดการแพร่ระบาดโควิด-19 จะส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยลดลงในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า
นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงค์อานนท์ ผอ.สำนักระบาดวิทยา เปิดเผย มาตรการล็อกดาวน์ ต้องดำเนินการอย่างจริงจังงดการออกจากบ้าน คาดจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อจะลดลงได้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน เนื่องจากเชื้อเดลตามีอัตราการแพร่ที่ค่อนข้างเร็ว และเพื่อให้จำนวนผู้ป่วยสอดคล้องกับบริการทางด้านสาธารณสุข ย้ำจุดประสงค์สำคัญ เพื่อลดอัตราการติดเชื้อ ไม่ให้เชื้อแพร่กระจายจากครอบครัวหนึ่งไปอีกครอบครัวหนึ่ง และให้ทำงาน แบบ Work from home เพื่อหยุดการแพร่เชื้อให้เร็วที่สุด และเร่งการฉีดวัคซีนในคนสูงอายุ และป่วยโรคเรื้อรัง
ขณะที่ นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข มีคำแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่ได้คิวฉีดวัคซีนโควิด-19 และจะต้องเดินทางในช่วงล็อคดาวน์ ว่า ทุกครั้งที่เดินทางต้องสวมหน้ากากอนามัย ทั้งโดยสารรถสาธารณะ รถส่วนตัว และป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด พร้อมขอให้มั่นใจสถานที่บริการฉีดวัคซีนมีมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 อาทิ การทำความสะอาดสถานที่ การรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ย้ำอีกว่า ขณะนี้บุคลากรด่านหน้าเหนื่อยมากทุกคนต้องช่วยกันหยุดอยู่บ้าน ดูแลตัวเอง ควบคุมการสถานการณ์ระบาดครั้งนี้ ไม่เช่นนั้นระบบสาธารณสุขจะรับไม่ไหวอีกต่อไป มาตรการที่ออกมาถือว่ามีความจำเป็น ต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้น ถ้าไม่ทำอย่างเต็มที่จะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้.-สำนักข่าวไทย