นครพนม 6 ก.ค.-โรงสีสหกรณ์การเกษตร อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม งบประมาณกว่า 8 ล้าน สร้างแล้วใช้งานไม่ได้ ถูกทิ้งร้างเกือบ 20 ปี
โรงสีข้าวขนาดกำลังผลิต 40 ตันต่อวัน มูลค่า 8.7 ล้านบาท ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำมาติดตั้งให้กับสหกรณ์การเกษตรท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เมื่อประมาณปี 2544 ถูกทิ้งร้างไม่ได้ใช้งาน เนื่องจากไม่สามารถสีข้าวได้ตามสเป็คที่ได้กล่าวอ้าง โดยนับตั้งแต่ติดตั้ง ได้เดินเครื่องได้เพียง 2 ครั้ง ก่อนหยุดใช้งานจนถึงปัจจุบัน
นายเรืองชัย วงษ์อุระ ประธานสหกรณ์การเกษตรท่าอุเทน เปิดเผยว่า เมื่อประมาณปี 2544 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับเงินอุดหนุนทั่วไป เพื่อช่วยเหลือด้านเงินทุนเพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตรแก่สหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศจำนวน 191 แห่ง โดยใช้งบประมาณเป็นเงินรวมทั้งสิ้นกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านบาท โดยสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดนครพนม ได้รับจัดสรรเป็นโรงสีข้าวแทนเงินทุน ซึ่งเป็นโรงสีขนาดกำลังการผลิต 40 ตันต่อวัน มูลค่า 8,775,900 บาท รวม 3 แห่ง คือ สหกรณ์การเกษตรนาแก, สหกรณ์การเกษตรธาตุพนม และสหกรณ์การเกษตรท่าอุเทน โดยนำมาติดตั้งในที่ดินของสหกรณ์การเกษตรทั้ง 3 แห่ง มีเงื่อนไขว่าให้สหกรณ์การเกษตรทั้ง 3 แห่ง ต้องบริจาคเงินคืนเข้ากองทุนพัฒนาสหกรณ์ตามระยะเวลาที่กรมส่งเริมสหกรณ์กำหนด พร้อมดอกเบี้ยอีกร้อยละ 1 ต่อปี
แต่ภายหลังติดตั้งโรงสีแล้วเสร็จและเดินเครื่องทดลองครั้งแรกที่สหกรณ์การเกษตรนาแก ได้ลองทำการสีข้าวเปลือกจำนวน 4 ตัน ปรากฏว่าสีได้ข้าวสาร เพียง 150 กิโลกรัมเท่านั้น ภายหลังทำการแก้ไขและนำข้าวเปลือกอีก 1 ตัน ใส่เข้าไปสี ปรากฏว่าไม่ได้ข้าวสารออกมาสักเม็ดเดียว ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ช่างที่มาติดตั้งมาแก้ไข และหลังจากนั้นไม่ได้เปิดใช้งานโรงสีดังกล่าวอีกเลย จนถึงปัจจุบันส่วนที่สหกรณ์การเกษตรท่าอุเทนก็ประสบปัญหาแบบเดียวกันจนชาวนาไม่กล้านำข้าวเปลือกมาสีกับสหกรณ์อีก ต่อมารัฐบาลออกนโยบายรับจำนำข้าว ชาวนาก็นำข้าวเปลือกไปจำนำกับโรงสีเอกชนโรงสีของสหกรณ์ จึงถูกทิ้งร้างมาจนถึงปัจจุบัน จึงอยากให้เจ้าของโครงการ คือ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ช่วยติดตามตรวจสอบว่าโรงสีอีกกว่า 190 โรงทั่วประเทศ ตามโครงการดังกล่าวปัจจุบัน ยังสามารถใช้งานได้อยู่หรือไม่.-สำนักข่าวไทย