“หมอแก้ว” ย้ำปิดแคมป์คนงานไม่พอ ต้องเข้มมาตรการทางสังคมด้วย

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย. – ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา ชี้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องทำหลายด้านควบคู่กัน โดยเฉพาะมาตรการทางสังคม การปิดแคมป์แรงงานคือการปิดสถานที่เสี่ยง ไม่ใช่การล็อกดาวน์ อาจทำให้การแพร่ระบาดชะลอตัวลง แต่อาจจะไม่ลดการติดเชื้อ ย้ำมาตรการทางสังคมต้องทำอย่างจริงจัง และทุกคนมีวินัย


นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข อดีตรองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้ความเห็นกรณีมาตรการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1 เดือน เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ว่า สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง เพราะในจำนวนคลัสเตอร์ทั้งหมด มีถึง 40% ที่เป็นคลัสเตอร์แคมป์คนงาน มาตรการนี้จึงถือเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ทำอะไรได้ก็ต้องทำไปก่อน ตนเข้าใจว่า รัฐบาลต้องการเลือกมาตรการที่มีผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว มาตรการเดียวยังไม่ช่วยควบคุมการระบาดของโควิด จำเป็นต้องมีมาตรการร่วมกันหลายด้าน เฉพาะมาตรการทางสังคมและวินัยส่วนตัว ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ถ้าทุกคนเข้าใจสถานการณ์ดี ก็จะไม่ทำให้เกิดความสูญเสียมาก ยกตัวอย่าง ภาพที่เราเห็นทุกวันนี้ ตกเย็นยังคงมีการรวมกลุ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่บ้าน/ปากซอย หรือจัดปาร์ตี้ คนก็ยังทำอยู่ ถือเป็นภาพการปฏิบัติตัวของคนในสังคมไทยที่ยังมีความหละหลวมอยู่ทั่วไป ตนเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะเคร่งครัด เข้มงวดขึ้นด้วยทั้งหมด

“ผมเทียบว่าปีนี้สถานการณ์รุนแรงกว่าปีที่แล้ว แต่ยังเห็นคนไทยให้ความร่วมมือกับภาครัฐน้อยกว่าปีที่แล้ว ซึ่งถ้าเราให้ความร่วมมือกับภาครัฐมากเท่ากับปีที่แล้ว เราจะไม่เห็นมาตรการเชิงบังคับมาก แต่ถ้าเรายังทำตัวแบบเดิมอีก แม้มีมาตรการบังคับก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก” นพ.ธนรักษ์ กล่าว


นพ.ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญและจำเป็นมาก คือ ทำอย่างไรจึงจะสื่อสารให้คนในสังคมทุกกลุ่มเข้าใจในสถานการณ์นี้ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง อยากให้มีการสื่อสารกับคนในหลายระดับ ให้เกิดความเข้าใจจริงๆ เพราะมีหลายกลุ่มยังอาจขาดวินัยอยู่มาก และเป็นจุดอ่อนทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด

สำหรับมาตรการทางสังคม ต้องการความสมัครใจ เช่น คนทำงานออฟฟิศในกรุงเทพฯ ก็ขอให้เวิร์กฟอร์มโฮม แบบถนนโล่ง เหมือนปีที่แล้ว ไม่ใช่รถติดแบบทุกวันนี้ หรืออาจไม่ต้องมีการปิดห้างฯ แต่คนที่ไปห้างฯ มีมาตรการทางสังคมดี ไม่กินดื่มในห้างฯ เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากตลอดเวลา ก็ไม่มีความเสี่ยงแพร่เชื้อแล้ว มาตรการทางสังคมจึงควรทำให้จริงจัง ใส่หน้ากากอนามัยจริงจัง แต่ปัจจุบันยังมองเห็นคนไม่ใส่หน้ากาก และเอาหน้ากากลงเยอะมาก ขอย้ำอีกว่า มาตรการทางสังคมภาคสมัครใจ เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยระงับการระบาดของโรค เป็นมาตรการที่มีพลังสูงกว่ามาตรการภาคบังคับ แต่ถ้าไม่มีใครปฏิบัติตาม ใช้มาตรการภาคบังคับ เช่น ปิดแคมป์คนงานไปก็เท่านั้น

ส่วนการใช้คำว่า “ล็อกดาวน์” ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริงกับสังคมไทย เพราะล็อกดาวน์ คือ ความหมายของการไม่ออกจากบ้านตลอด 24 ชั่วโมง แต่มาตรการตั้งแต่โควิดระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน คือ การปิดจุดเสี่ยงหรือพื้นที่เสี่ยงเท่านั้น. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

จ่อออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 ทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง