แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ ยังไม่สรุปสาเหตุการตาย “น้องนาเดียร์”

กรุงเทพฯ 23 มิ.ย. – ยังไม่ชัดสาเหตุการเสียชีวิตของ “น้องนาเดียร์” เด็กหญิงวัย 2 ขวบ เกิดจากการจมน้ำตามที่พี่สะใภ้อ้างหรือไม่ หลังแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ ผ่าชันสูตรแล้วไม่พบความผิดปกติของอวัยวะภายใน ประกอบกับสภาพศพเปลี่ยนแปลงไปมาก เนื่องจากเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 5 วัน


นางสาวสุรินทร์ นายอัมพล แม่และพ่อของ น้องนาเดียร์ อายุ 2 ขวบ พร้อมด้วยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางเข้ารับศพน้องนาเดียร์ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก

พันตำรวจเอกวาที อัศวุตมางกุร โฆษกสถาบันนิติเวช เปิดเผยว่า จากการชันสูตรแพทย์ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ เนื่องจากเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน สภาพศพมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ส่วนปอดและอวัยวะอื่นๆ ตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติ จึงทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าน้องจมน้ำเสียชีวิตหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้ตัดชิ้นเนื้ออวัยวะภายใน เช่น ปอด ตับ และหัวใจ ไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียด โดยตรวจดูสิ่งแปลกปลอม เช่น เศษดิน หรือตะไคร่น้ำ หรือการสำลักน้ำ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน จึงจะทราบว่าเป็นการจมน้ำเสียชีวิตหรือไม่ ส่วนสภาพภายนอกไม่พบบาดแผลที่เป็นสาเหตุให้เสียชีวิต


ด้านพ่อแม่ของน้องนาเดียร์ เผยหลังทราบผลการชันสูตรยอมรับว่ายังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูก เพราะพฤติกรรมของนางเจี๊ยบ พี่สะใภ้ น่าสงสัย หลังน้องนาเดียร์เสียชีวิต เหตุใดพี่สะใภ้ไม่พาน้องนาเดียร์ไปส่งโรงพยาบาล แต่กลับนำไปฝังดิน และตอนพาออกจากบ้านก็ไม่บอกว่าจะพาไปไหน ซึ่งผิดสังเกต

นอกจากนี้หลังเกิดเหตุคนข้างบ้านพูดทำนองว่าทำไมจึงฝากให้คนนี้เลี้ยงลูก ไม่รู้เหรอว่าเขาเป็นคนอย่างไร ยังเอะใจว่าทำไมพูดแบบนี้

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุพี่สะใภ้ได้โทรศัพท์มาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตนและครอบครัวไม่พร้อมจะให้อภัย ไม่อยากพูดคุยด้วยอีกแล้ว ที่ผ่านมาพี่สะใภ้เลี้ยงลูกให้ไม่เคยมีปัญหาอะไร และไม่เคยเห็นมีแผลหรือได้รับบาดเจ็บหนัก เคยเห็นเพียงรอยฟกช้ำที่อาจเกิดจากการหกล้ม อย่างไรก็ตาม ไม่ปักใจเชื่อว่าพี่สะใภ้จะก่อเหตุคนเดียว การจะทำแบบนี้ได้จะไม่มีใครรู้เห็นเลยเป็นไปไม่ได้ หรือถ้าเข้าสามารถฝังเด็กคนหนึ่งได้ด้วยตัวคนเดียวถือว่าเก่งมาก


ด้านนางปวีณา เปิดเผยว่า จะติดตามคดีนี้และให้การช่วยเหลือครอบครัวของน้องนาเดียร์ เบื้องต้นมอบเงินช่วยฌาปนกิจจำนวน 10,000 บาท ให้แม่น้องนาเดียร์ และวางแผนว่าหลังจากงานฌาปนกิจเสร็จสิ้น นางสุรินทร์จะรับน้องโมเดล ลูกสาววัย 4 ขวบ มาดูแลเองในกรุงเทพฯ ซึ่งตนจะประสานกระทรวงศึกษาธิการจัดหาสถานศึกษาให้ พร้อมทั้งประสานกระทรวงยุติธรรมเพื่อยื่นขอรับเงินเยียวยา และประสานหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดราชบุรี เข้าช่วยเหลือ ส่วนเรื่องคดีความจากการได้พูดคุยเจ้าของคดี ทราบว่าตอนนี้คดีอยู่ระหว่างสืบสวนและสอบปากคำพี่สะใภ้อีกครั้ง และอาจต้องให้สหวิชาชีพสอบพี่สาววัย 4 ขวบ ของน้องนาเดียร์ด้วย เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และต้องรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์

ทั้งนี้ ครอบครัวของน้องนาเดียร์ประสงค์ที่จะนำพี่สาวคนโตวัย 4 ขวบ มาเลี้ยงเองที่กรุงเทพฯ ซึ่งทางมูลนิธิฯ จะเป็นผู้ประสานงาน ทั้งเรื่องความเป็นอยู่และการศึกษา และยังจะเป็นตัวกลางในการติดตามความคืบหน้าของคดีต่อไปด้วย สำหรับร่างไร้วิญาณของน้องนาเดียร์ ทางพ่อและแม่จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหลักหก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่