เพชรบูรณ์ 15 มิ.ย.-พี่ชายคนขับ BMW Z4 พุ่งข้ามเกาะชนซูซูกิ สวิฟต์ ขอความเป็นธรรม เผยน้องชายไม่ได้ขับรถเร็ว ขณะที่ พ่อเหยื่อ เผยลูกสาวโทรบอกว่าจะกลับบ้าน ดีใจมาก เตรียมทำกับข้าวรอ
จากกรณีรถเก๋ง สปอร์ตหรู ขับซิ่งฝ่าสายฝนแล้วเกิดเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนน ไปชนประสานงากับรถยนต์ที่วิ่งสวนมา ใน จ.เพชรบูรณ์ จนทำให้ผู้ที่อยู่ในรถเสียชีวิต 2 ราย ส่วนคนขับรถหรูเสียชีวิตที่ ขณะที่ หญิงสาวที่นั่งมาด้วย ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ล่าสุดวานนี้ (14 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดย พ.ต.อ.พีระเพชร อุบลจิตต์. ผกก.สภ.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความเร็วของรถ BMW Z4 ที่พุ่งข้ามเกาะกลางถนนและชนรถเก๋งซูซูกิ สวิฟต์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะขับเร็ว เพราะพบหลักฐานการขับแซงรถจำนวนหลายคัน โดยจะเข้าตรวจสอบพื้นที่ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากสภาพถนนหรือสภาพรถ และในขณะเกิดเหตุ ยางแตกหรือเบรกรถมีปัญหาหรือไม่ ส่วนเรื่องเมาแล้วขับ มีการเจาะเลือดผู้เสียชีวิตไปตรวจ จะทราบผลอีก 14 วัน ซึ่งขณะนี้ต้องรอหลักฐานจากตำรวจวิทยาการ และหลักฐานจากทางโรงพยาบาลมาพิจารณาประกอบ
ขณะที่พ่อแม่และญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลหนองไผ่ เพื่อมารอรับศพนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด โดยนายนิติ วรรณกายนต์ อายุ 63 ปี พ่อของ น.ส.วรรณกานต์ หรือน้องอุ้ย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ น้องอุ้ยได้โทรมาบอกทางบ้านว่าจะกลับมาบ้าน ตนและครอบครัวรู้สึกดีใจ เตรียมทำกับข้าวที่น้องอุ้ยชอบรับประทาน ตนเองได้ไปเก็บผักในสวนมาเตรียมไว้ แต่ต้องมารับทราบข่าวร้ายว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ตนเองพยายามตั้งสติ ขณะที่แม่ของน้องอุ้ยมีการช็อกนิ่งเงียบไม่พูดจา
ด้าน นายภูริทัต ภูไชยแสง พี่ชายของนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง คนขับรถหรู เล่าว่า ในฐานะที่ตนเป็นพี่ชายอยากจะขอร้องต่อสังคมว่า ขอให้โอกาสพวกเราบ้าง เพราะครอบเราก็สูญเสียเหมือนกัน อยากจะขอร้อง อะไรที่ยังไม่ชัดเจนอย่าไปประณาม อย่าพิพากษาโดยสังคม เรื่องมันอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ แต่มันยังไม่ถึงเวลา ขอนำเรียนสื่อว่าน้องชายไม่ได้ไลฟ์ในขณะเกิดเหตุ และไม่ได้ขับรถเร็ว
ขณะที่ โลกออนไลน์มีการแคปคอมเมนต์ การโต้ตอบกลับของ น.ส.เมษสวรรค์ แทนรัตน์ โดยมีข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า “ด่ามาด่ากลับไม่โกงนะ พวกมึงระวังตัวไว้, ไอพวกที่ด่าเราอยากรู้จริงว่าเราไปเกี่ยวอะไรด้วยเราไม่ใช่คนขับสักหน่อย” ข้อความดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่พอใจ เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ กันเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับแม่ของ น.ส.เมษสวรรค์ แทนรัตน์ ในขณะที่เดินทางมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.นาเฉลียง โดยเปิดเผยว่า ขณะนี้มีคนเข้ามารุมด่าว่าน้อง ในสื่อออนไลน์ และในเฟซบุ๊กส่วนตัวของน้องค่อนข้างรุนแรง ตนในฐานะแม่รู้สึกไม่ดี ไม่ค่อยสบายใจ และอยากขอชี้แจงตรงนี้ว่า คนที่เข้าไปตอบโต้ในสื่อออนไลน์หรือในเฟซบุ๊กว่า ไม่ใช่น้องเมษสวรรค์ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุโทรศัพท์ของน้องพัง และตัวน้องเองก็นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ไม่มีคอมพิวเตอร์ ที่จะไปโต้ตอบใครได้ จึงอยากวอนสังคมให้เข้าใจตรงจุดนี้ด้วยว่า คนที่ไปโต้ตอบนั้นไม่ใช่ตัวน้อง
ส่วนเรื่องที่น้องไลฟ์สด ก็เป็นคนละสถานที่กับที่เกิดเหตุ และต่างเวลากัน ซึ่งจุดนี้ทุกคนมีสิทธิที่จะคิด แม่เองก็ไปห้ามใครไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็อยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งไปตัดสินว่า ใครถูกใครผิด จนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งแม่เองก็รู้สึกเสียใจมาก ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนอาการน้องตอนนี้ รอเข้ารับการผ่าตัดขาข้างซ้ายที่หักผิดรูป ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์.-สำนักข่าวไทย