กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – ศบค.เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2,671 ราย มาจากเรือนจำ 604 ราย เสียชีวิต 23 ราย กทม.มากสุด ปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อมาจากคนใกล้ชิด แถมเจอคลัสเตอร์ใหม่ เขตอุตสาหกรรมฟอกหนังที่สมุทรปราการ และยังพบผู้ติดเชื้อเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านอื้อ วอนคนไทยกลับเข้าประเทศอย่างถูกต้อง
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในวันนี้ (6 มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,671 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 2,588 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ 604 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,095 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในชุมชน 889 ราย และมาจากต่างประเทศ 83 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 จำนวน 148,604 ราย มีผู้ป่วยที่หายกลับบ้านได้ 2,442 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในกรุงเทพฯ 13 ราย สมุทรปราการ 4 ราย ที่เหลือจากฉะเชิงเทรา นครราชสีมา นครศรีธรรมราช สระบุรี สระแก้ว และระยอง ซึ่งส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน โรคปอด และหลอดเลือดสมอง โดยปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อยังเป็นคนในครอบครัว
สำหรับผู้ที่ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศ 83 ราย ซึ่งกลุ่มก้อนใหญ่มาจากกัมพูชาถึง 76 ราย และมีจำนวน 16 ราย เข้ามาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และในวันนี้มีการเข้าประเทศอย่างไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย 173 ราย จึงขอเรียกร้องคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศ ขอให้เข้ามาอย่างถูกต้อง โดยลงทะเบียนออนไลน์ผ่านระบบของกระทรวง มีหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศ และเข้ารับการกักตัว 14 วัน เมื่อเดินทางมาถึง โดยมีจุดผ่านแดนที่อนุญาตให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศ 23 จุด ใน 22 จังหวัด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่สูงสุด 5 จังหวัด ยังเป็นกรุงเทพฯ 675 ราย สมุทรสาคร 288 ราย เพชรบุรี 196 ราย นนทบุรี 163 ราย สมุทรปราการ 124 ราย โดยรูปแบบการระบาดที่สมุทรสาคร เป็นโรงงานผลิตสินค้าเด็กในกระทุ่มแบน เพชรบุรีเป็นโรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เขาย้อย นนทบุรีเป็นแคมป์ก่อสร้างชาวไทย เมียนมา กัมพูชา ขณะที่สมุทรปราการ เป็นตลาดสำโรง ชาวไทย เมียนมา กัมพูชา และมีคลัสเตอร์ใหม่ที่เขตอุตสาหกรรมฟอกหนัง ดังนั้น ทาง ศบค.จึงตรวจสอบแคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด จนถึงวันนี้ได้มีการตรวจสอบแล้ว 367 แห่ง ผ่านมาตรฐาน 270 แห่ง ไม่ผ่าน 97 แห่ง จึงต้องมีมาตรการสำหรับนายจ้าง และมาตรการในส่วนของคนงานและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย