พยานคดีน้องชมพู่ลุ้น ตร.จับคนร้ายตัวจริง คืนความสุขบ้านกกกอก

มุกดาหาร 31 พ.ค. – พยานปากสำคัญคดี “น้องชมพู่” ยอมรับโล่งใจ หลังตำรวจมุกดาหารเผยคดีคืบหน้ามากและเตรียมเปิดโฉมหน้าคนร้าย พร้อมขอศาลออกหมายจับ


ความเคลื่อนไหวล่าสุดของนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ลุงเขยของน้องชมพู่ ที่เสียชีวิตในสภาพเปลือยอยู่บนภูเหล็กไฟ อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร โดยลุงพลไม่ได้อยู่ที่บ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร แต่แพ็กกระเป๋าขับรถพาป้าแต๋นและลูกๆ มาเยี่ยมพ่อของลุงพล ที่อาศัยอยู่ในอำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ลุงพลบอกว่าออกจากบ้านกกกอกมาตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 29 พฤษภาคม การมาครั้งนี้นอกจากมาเยี่ยมพ่อ ยังมาถมที่ ปรับหน้าดินบนที่ดินประมาณไร่เศษที่แบ่งกับพ่อ เพื่อเตรียมปลูกต้นไม้ ทำสวน และสร้างบ้านเอาไว้พักผ่อน ย้ำการเดินทางครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ และไม่กังวลอะไร อีก 2-3 วัน ก็จะกลับไปบ้านกกกอก ขอสังคมอย่าสงสัย

ด้านนายวัชรินทร์ ชาวบ้านกกกอก พยานปากสำคัญในคดีน้องชมพู่ ที่เห็นลุงพลอยู่ที่สวนยางข้างบ้าน ยอมรับหลังตำรวจมุกดาหารออกมาบอกว่าคดีคืบหน้าไปมาก และเตรียมเปิดโฉมหน้าคนร้ายในคดี พร้อมขอศาลออกหมายจับ ทำให้ตอนนี้หวังไว้สูงมากว่าตำรวจจะจับคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดี และนำความสงบสุขมาสู่บ้านกกกอก เพราะทุกวันนี้อยู่กันแบบระแวง แยกไม่ออกใครมาดีมาร้าย และคดีก็ยืดเยื้อมากว่า 1 ปี อยากให้เรื่องนี้จบเสียที


ย้อนกลับไปที่คดีน้องชมพู่กลับมาถูกจับจ้องอีกครั้ง เพราะพันตำรวจเอกชัชชัย วงศ์สุนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ออกมาเปิดเผยว่าคดีคืบหน้ามาก เพราะมีการเตรียมสรุปสำนวนคดี และขอศาลออกหมายจับคนร้าย แต่รายละเอียดขอให้อดใจรอพลตำรวจเอกสุวัฒน์ เเจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ข้อมูลในสัปดาห์นี้

ส่วนนางสาวิตรี แม่ของน้องชมพู่ ทั้งตื่นเต้นและดีใจ เพราะรอวันนี้มานาน ตลอดปีกว่าได้แต่หวังให้ตำรวจจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ มั่นใจการออกมาเปิดเผยครั้งนี้ตำรวจต้องมีทั้งพยานและหลักฐานมัดตัวคนร้ายได้แน่น

สำหรับคดีนี้ตำรวจพบศพของน้องชมพู่ในสภาพเปลือยอยู่บนภูเหล็กไฟ โดยน้องหายตัวปริศนาไปตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม แต่กว่าจะหาศพน้องพบก็ผ่านไปนานถึง 3 วัน ทั้งที่จุดพบศพห่างจากบ้านของน้องไปเพียง 1.8 กิโลเมตร แต่จุดที่น่าสงสัยคือระยะทางแม้ไม่ไกล แต่ด้วยความที่อยู่บนเขาสูง ขนาดผู้ใหญ่เดินยังเหนื่อย ทำให้ไม่น่าเป็นไปได้ที่เด็กวัยเพียง 3 ขวบ จะเดินลัดเลาะขึ้นไปเองได้


ขณะที่วัตถุพยานในคดีตรวจไปแล้ว 113 ชิ้น เก็บดีเอ็นเอไปมากถึง 154 ตัวอย่าง และหนึ่งในนั้นเป็นเส้นขนปริศนา 3 เส้น และเส้นผมของน้องชมพู่ ส่วนพยานสอบปากคำไป 384 ปาก แถมมีการนำบุคคลเข้าเครื่องจับเท็จ ทั้งพ่อแม่น้องชมพู่ ลุงพล ป้าแต๋น แต่ไม่ว่าจะมีพยานหลักฐานมากขนาดไหน แต่ตำรวจได้เคยออกปากว่าจะเปิดชื่อคนร้าย เพียงแต่บอกว่าคืบหน้าไปมากทุกครั้ง ทำให้การสรุปสำนวนเพื่อขอศาลออกหมายจับในครั้งนี้ถูกสังคมจับตามองว่าจะเป็นมวยล้มต้มคนดู หรือได้ตัวคนร้ายในคดีนี้แล้วจริงๆ

รายงานข่าวแจ้งว่าตำรวจฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาอย่างน้อย 1 คน ในข้อ 3 ข้อหา คือ 1.พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร 2.หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย จนถึงแก่ความตาย 3.ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ค่าฝุ่นกทม.

กทม. เช้านี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 54 พื้นที่

กรุงเทพฯ เช้านี้ พบว่าค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 54 พื้นที่ แนะสวมกากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.