“มนัญญา” กำชับ อ.ส.ค. และสหกรณ์โคนมเฝ้าระวังการแพร่ระบาด “โรคลัมปี สกิน”


กรุงเทพฯ 28 พ.ค. – “รมช.มนัญญา” กำชับ อ.ส.ค. และสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมเฝ้าระวังการแพร่ระบาด “โรคลัมปี สกิน” ไม่ให้กระทบอุตสาหกรรมโคนมประเทศ นำทีมผู้บริหารฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ณ ฟาร์มโคนม อ.ส.ค. จ.สระบุรี



นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ป้องกันโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ ประธานกรรมการ อ.ส.ค. นายพิษณุ คล้ายเจตน์ดี สหกรณ์จังหวัดสระบุรี หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และเกษตรกร ให้การต้อนรับ ณ ฟาร์มโคนมประสิทธิภาพสูง องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบเวชภัณฑ์ยาฆ่าแมลง และถังฉีดพ่นให้กับสหกรณ์ในเขตภาคกลาง จำนวน 15 แห่ง ที่ส่งนมให้ อ.ส.ค. เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค กระบือและสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม พร้อมรับชมการสาธิตฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ณ ฟาร์มโคนมประสิทธิภาพสูงด้วย


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ กล่าวว่าจากสถานการณ์โรคระบาดการติดเชื้อไวรัส ลัมปี – สกิน (Lumpy skin disease) ที่ยังวิกฤติหนักในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือทั่วประเทศ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อสถานการณ์อย่างมากและกำชับให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ตนในฐานะผู้กำกับดูแลองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) มีความห่วงใยต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและสหกรณ์โคนมที่ส่งน้ำนมดิบให้กับสหกรณ์ทั่วประเทศ

ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของโรคและป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม จึงมอบหมายให้ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการดูแลเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โดยการจัดทำ“โครงการรณรงค์ป้องกันโรคลัมปี สกิน” (Lumpy Skin Disease)

เนื่องจากปัจจุบันอ.ส.ค.มีสมาชิกส่งน้ำนมดิบให้กับ อ.ส.ค.ทั่วประเทศจำนวน 5,952 ราย มีจำนวนโครวม 174,658 ตัว ส่งน้ำนมดิบให้ อ.ส.ค.ประมาณ 874 ตัน/วัน โดยพื้นที่ภาคกลางมีสหกรณ์โคนมที่ส่งน้ำนมดิบมากที่สุดคือ จำนวน 15 สหกรณ์ มีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม 2,380 ราย และจำนวนโคนม 65,863 ตัว จึงได้สั่งการให้ อ.ส.ค.เฝ้าระวังโรคในพื้นที่พร้อมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิดและให้ร้ายงนสถานการณ์มายังตนอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง


โรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ในประเทศไทยได้พบการระบาดครั้งแรกของในโคและกระบือ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุเกิดจากการนำเข้าโคเนื้อมาเลี้ยงใหม่ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยอาจมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นโรคอุบัติใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยมีต้นกำเนิดจากทวีปแอฟริกา มีการแพร่กระจายโดยการเคลื่อนย้ายสัตว์และมีแมลงดูดเลือดเป็นพาหะที่สำคัญ เช่น แมลงวันคอก เห็บ และยุงปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดของโรคไปสู่โค กระบือ ใน 36 จังหวัด ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันตกและภาคใต้ โดยมีโค กระบือ ป่วยกว่า 7,200 ตัว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง