ดันสหกรณ์​รับซื้อปาล์ม​น้ำมัน​ช่วย​เกษตรกร

กระบี่​ 21​ ม.ค. – “รมช.มนัญญา” รุดแก้ปัญหาผลผลิตปาล์มล้นตลาด จ.กระบี่ ดันสหกรณ์รับซื้อปาล์มน้ำมันช่วยเกษตรกร แก้ปัญหาความเดือดร้อน ราคาเป็นธรรม


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร โดยมี นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสมชาย เทพจิตร ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด สมาชิกชุมนุมสหกรณ์ฯ เข้าร่วม ณ ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ตำบลคลองยา อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ว่า ปาล์มน้ํามันเป็นพืชเศรษฐกิจที่สําคัญในเขตภาคใต้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มีแนวทางในการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยใช้กลไกสหกรณ์ขับเคลื่อน ผ่านชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ซึ่งขณะนี้พบว่า เกษตรกรในพื้นที่ประสบปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ และมีปัญหาการลักลอบปาล์มนอกโควตาเข้ามาในประเทศไทย จึงได้ขอความร่วมมือให้ชุมนุมสหกรณ์ฯ ดำเนินการรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรและสมาชิกอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากพบว่า ลานเทของเอกชนในพื้นที่หลายแห่งปิดการรับซื้อ ดังนั้น ขอให้สหกรณ์เป็นที่พึ่งของเกษตรกรเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน

จากรายงานของประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ได้รายงานว่า ขณะนี้ราคารับซื้อผลปาล์มดิบ ณ ปัจจุบัน วันที่ 20 ม.ค.66 อยู่ที่ 4.80 บาทต่อกิโลกรัม และพร้อมจะขยับราคารับซื้อเพิ่มเป็น 5 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือสมาชิกตามที่ได้ขอความร่วมมือให้ช่วยเหลือเกษตรกรในภาวะดังกล่าว จึงเป็นการตอกย้ำว่าระบบสหกรณ์เป็นที่พึ่งของสมาชิกเกษตรกรอย่างแท้จริง และเป็นสถาบันที่จะช่วยถ่วงดุลทางการตลาดกับภาคเอกชน


“จะเห็นได้ว่าในสถานการณ์ที่ลานเทเอกชนปิดการรับซื้อด้วยสาเหตุใดก็ตาม สหกรณ์ก็ยังขับเคลื่อนได้เพื่อช่วยเหลือสมาชิก จึงขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็ง นอกจากนี้ได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตร ตรวจจับการนำเข้าอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม เรื่องการหยุดรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง เพราะเชื่อว่าไม่มีใครเอาความเดือดร้อนของเกษตรกรมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง สำหรับกรณีปัญหาโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สาขาอำเภอคลองท่อม ซึ่งเคยอยู่ในการดูแลของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ที่มีปัญหาเรื่องการจัดทำสัญญาซื้อขายโรงงานที่ไม่ชอบธรรม ขณะนี้ได้รับการประสานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเข้ามาช่วยดูแลเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เบื้องต้นจะมีการหารือกับกรรมการสหกรณ์ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เพื่อช่วยแก้ไขและนำโรงงานสกัดแห่งนี้กลับเข้ามาอยู่ในความดูแลของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ต่อไป” รมช.มนัญญา กล่าว

พร้อนกันนี้ได้เน้นย้ำให้สหกรณ์หามืออาชีพมาช่วยในการบริหารจัดการสหกรณ์ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก รวมถึงได้เน้นย้ำเรื่องการส่งออกซึ่งปาล์มจะต้องมีคุณภาพเพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ และผลักดันให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มเข้าสู่ระบบมาตรฐาน RSPO (Roundtable on Sustainable Palm Oil) ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อชุมชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประเทศคู่ค้า จึงอยากเชิญชวนเกษตรกรชาวสวนปาล์มทั่วประเทศเข้ามาสู่ระบบนี้เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ จังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันจำนวน 41,156 ราย พื้นที่เพาะปลูกจำนวน 1,151,415 ไร่ ผลผลิตที่ได้ 3,345,467 ตันต่อปี ผลผลิตเฉลี่ย 3 ตันต่อไร่ มีสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตปาล์มน้ำมันจำนวน 14 แห่ง สำหรับชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด จดทะเบียนสหกรณ์เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2540 ด้วยทุนจดทะเบียน 60,000 บาท อีกทั้ง ประธานชุมสหกรณ์ฯ ได้รายงานว่า ปัจจุบันชุมนุมสหกรณ์ฯ มีทุนดำเนินงานเพิ่มเป็น 391.18 ล้านบาท มีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม จำนวน 2 แห่ง คือ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สาขาอำเภออ่าวลึก ขนาดกำลังการผลิต 90 ตันทะลายต่อชั่วโมง สามารถรองรับผลผลิตปาล์มน้ำมันได้ 2,000 – 2,200 ตันต่อวัน และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สาขาอำเภอคลองท่อม ขนาดกำลังการผลิต 45 ตันทะลายต่อชั่วโมง สามารถรองรับผลผลิตปาล์มน้ำมันได้ 1,200 – 1,400 ตันต่อวัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในการครอบครองของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง


สำหรับผลการดำเนินงานในปีบัญชี 2565 ในส่วนของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สาขาอำเภออ่าวลึก สามารถรวบรวมผลผลิตปาล์มน้ำมันทั้งสิ้น จำนวน 190,393.25 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,441.34 ล้านบาท สามารถจำหน่ายสินค้าที่ได้จากการแปรรูปผลผลิตปาล์มน้ำมัน ดังนี้ 1) น้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 32,020.43 ตัน มูลค่า 1,282.14 ล้านบาท 2) เมล็ดใน จำนวน 10,058.90 ตัน มูลค่า 205.95 ล้านบาท 3) กะลาปาล์ม จำนวน 6,257.35 ตัน มูลค่า 22.86 ล้านบาท 4) ทะลายเปล่า จำนวน 36,962.98 ตัน มูลค่า 5.25 ล้านบาท

จากนั้น รมช.มนัญญา เดินทางเยี่ยมชมแปลงสาธิตการผลิตปาล์มน้ำมันของนายจรัส ปทุมสุวรรณ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ต้นแบบ (ปาล์มนํ้ามัน) สหกรณ์นิคมอ่าวลึก ณ ตำบลคีรีวง อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ซึ่งได้รับใบรับรองมาตรฐาน RSPO โดยดำเนินกิจกรรมปลูกปาล์มและยังปลูกพืชร่วมและพืชแซมในสวนปาล์ม ทําให้สามารถจําหน่ายเป็นรายได้เสริมเพิ่มขึ้น เช่น การปลูกสละร่วมในสวนปาล์มน้ํามัน โดยในพื้นที่ 3 ไร่ สามารถจําหน่ายสละได้ 90,000 บาทต่อปี สร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี.-สำนัก​ข่าว​ไท​ย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

แนวร่วมเริ่มปราศรัย! จนท.เข้มปลอดภัย-จราจรหนึบ

กทม. 28 มิ.ย.- กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปักหลักชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ จับตาไฮไลท์ช่วงเย็นแกนนำขึ้นปราศรัย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด กิจกรรมเวทีชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย​ เริ่มตั้งแต่ 10.00 น.​ เป็นพิธีทางศาสนาอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรบุรุษชาติทหาร​ ก่อนที่ในช่วงเที่ยงจะมีการปราศรัยจากแนวร่วมผู้ชุมนุม ขึ้นสลับสับเปลี่ยนกัน​ แต่ไฮไลท์ของกิจกรรมจะอยู่ช่วงเย็น​ หลังร้องเพลงชาติ 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์ จากนั้นระดับแกนนำจะสลับกันขึ้นปราศรัย อาทิ นายสนธิ​ ลิ้มทองกุล​ นายปานเทพ​ พัวพงษ์พันธ์ นายสมชาย​ แสวงการ นายเจษ โทณวณิก​ นายนิธร​ ล้ำเหลือ และปิดท้ายด้วยนายจตุพร​ พรหมพันธุ์ โดยจะปิดเวทีเวลา 21.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นำคณะเดินทางจากสะพานชมัยมารุเชฐ แถวทำเนียบรัฐบาล มาสมทบที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมกล่าวถึงภาพรวมการชุมนุม โดยยอมรับว่าได้รับรายงานเรื่องการตั้งด่านสกัด เพื่อไม่ให้เดินทางเข้ามาร่วม พร้อมย้ำการชุมนุมครั้งนี้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการชุมนุมของบ้านเมือง รักประเทศ และย้ำว่าการชุมนุมไม่มีท่อน้ำเลี้ยงจากกลุ่มองค์กรใด แต่เป็นท่อน้ำเลี้ยงที่มาจากเงินบริจาคของประชาชน ขณะเดียวกันไม่กังวลกลุ่มที่จะมาป่วน ด้าน […]

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ขอให้หน่วยงานความมั่นคงช่วยดูแลให้สงบเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่มีอะไรนะคะ” ก่อนย้อนถามว่า “มีอะไรแล้วหรือคะ” เป็นปกติ ก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกให้ดูให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มีความรุนแรง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคิดว่าการชุมนุมนี้จะบานปลายหรือไม่ เพราะเป็นการรวมพลังกันของหลายกลุ่ม นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะไม่มี ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ธงของการชุมนุมครั้งนี้คือต้องการให้นายกรัฐมนตรี ลาออก […]

เตือน “เหนือ-อีสาน” ฝนถล่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก

กทม. 28 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือน “เหนือ-อีสาน” เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือบริเวณจังหวัดเชียงรายและน่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย